3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นไทยภาคบ่าย แนะกลยุทธ์ลงทุน

#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า วันนี้ 16.00 น. จับตาเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ของ EU โดยตลาดคาดชะลอตัวเหลือ 2.5%YoY จากเดือนก่อนหน้าที่ 2.6%YoY และ 20.30 น. ถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ เพื่อบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต แม้ว่า FED Watch Tool จะเพิ่มน้ำหนักใกล้ 60% ที่ FED จะลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. และ ธ.ค. แต่ตัวเลขเดือน ธ.ค. ยังต่ำกว่า 50% ทำให้ตลาดกังวลว่า FED อาจจะลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ฟากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เดินหน้าทำ All Time High อาจเริ่มมี Upsideจำกัด

เมื่อวานปริมาณ Short Sell ลดลงเหลือ 3.73% ของมูลค่าการซื้อขายรวม หุ้นที่ถูก Short และมี Downside จำกัดทางเทคนิค คือ TOP GPSC TCAP BEM โดยหุ้นที่มีแรงกดดัชนีในรอบเช้า อาทิ DELTA AOT GULF ที่ดึง SET INDEX หลุดแนวรับ 1290-1294 จุด อาจเริ่มหยุดไหลถึงทรงตัว 

ดังนั้นบ่ายนี้คาด SET INDEX จะไม่ทำ Lower Low หลุด Low 1282 จุดเมื่อ มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีแนวรับ 1287 จุดเป็นฐานลุ้นดีดกลับ แต่จะดีเมื่อพ้นแนวต้าน1306 จุด เพราะภาพรวมยังอ่อนแอ จากแรงกดของเส้นค่าเฉลี่ย 200 เดือน ณ 1330 จุด

วันนี้ ครม. สัญจรที่โคราช จับตา 2 ประเด็นหลัก 1. อนุมัติงบดิจิทัลวอลเล็ตวงเงิน 122,000 ลบ.2. กระทรวงการคลังพิจารณาหยุดดำเนินการ Duty Freeขาเข้า โดยพื้นที่ Duty Free ขาเข้าคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของพื้นที่ตามสัญญา ผลกระทบต่อประมาณการกำไรปี 2568-2575 ของ AOT เฉลี่ยไม่เกิน 4% และ FV ประมาณ 3 บาท มาที่ 65 บาท

หุ้นเทคนิคแนะนำ WICE, SPRC

บล.โกลเบล็ก ระบุดัชนีปรับตัวลงโดยมีแรงขายในหุ้นกลุ่ม MEDIA ELECTRONIC PETRO และ CONSTRUCTION โดยนักลงทุนยังมีความกังวลเรื่องการเมืองภายในประเทศและขายลดความเสี่ยง ให้ลดสถานะที่แนวต้าน 1,300 จุด โดยช่วงบ่ายดัชนีมีแนวรับ 1,287 และมีแนวต้าน 1,300

ขณะที่ตลาดหุ้นช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ทั้งในเรื่องการพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันพรุ่งนี้ และการพิจารณาคดีนายกเศรษฐา ในวันที่ 10 ก.ค. ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด มีแรงขายในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคาร และไอซีที ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,294.64 จุด -4.71 จุด -0.36%  มูลค่าการซื้อขาย 19,300.43 ลบ.

บล.เอเอสแอล ระบุ ตลาดหุ้นภาคเช้าปรับตัวลง นักลงทุนยังคงรอติดตามถ้อยแถลงนโยบายการเงินและเศรษฐกิจของพาวเวลต่อสภาฯ/รายงานการประชุม FOMC รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจ ทั้ง PMI ภารบริการ และตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ 

ด้าน US Bond Yield วันนี้ ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเล็กน้อย โดยอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.44% เป็นปัจจัยกดดันตลาด ด้านปัจจัยในประเทศยังมีแรงกดดันจากประเด็นการเมือง พรุ่งนี้จะมีการพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล และสัปดาห์หน้าคดีพิจารณาคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน  

กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีเปิดออกด้านข้าง ปรับตัวลงให้เน้นยืนที่แนวรับ 1,288/1,280 ไม่ควรต่ำกว่า แนวต้าน 1,300/1,315 ตามลำดับ