BCPG รอการกลับมาเติบโตของ EPS

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.ทิสโก้ แนะนำ “ถือ” BCPG ประเมินมูลค่าที่เหมาะสม 14.50 บาท (DCF) หลังจากที่ราคาหุ้นลดลงกว่า 25% จากการประกาศเพิ่มทุน ทำให้มองว่ามีอัพไซด์ที่ค่อนข้างจำกัด และมีความเสี่ยงเชิงบวกคือ โครงการใหม่ๆ ในอนาคต 

ทั้งนี้ การเข้าซื้อโครงการใหม่ช่วยชดเชยโครงการเก่าที่หมดอายุ ฝ่ายวิจัยคาดว่า อัตรากำไรของ EBITDA จะอยู่ที่ 80% สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำกำลังการผลิต 114 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานลม 270 MW เริ่มรับรู้ในปี Q4/66 และล่าสุดการได้เขื่อนจากลาวรวมกับโรงโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นกำลังการผลิต 75 MW เริ่มผลิตไฟ 2H64-66 และคาดว่าจะมีโครงการใหม่มูลค่า 3.7 พันล้านบาท หรือ 36% ของโครงการใหม่จะช่วยชดเชยรายได้จากโซลาร์ฟาร์มในไทยปี 2565-67 ทำให้คาดรายได้จะเพิ่มขึ้นจาก 4.6 พันล้านบาทในปี 2563 เป็น 5.4 พันล้านบาทในปี 2564 และ 7.4 พันล้านบาทในปี 2565 –2567

คาด EPS เพิ่มขึ้น 6.8% และ 10.3% ในปี 2565-2566 หากโครงการใหม่ได้ข้อสรุป ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยได้รวมผลของ Dilution ที่เกิดขึ้น โดยคาดว่า EPS จะลดลง 4.9% และ 15.1% สำหรับปี 2563 – 2564 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้น 6.8% และ 10.3% ในปี 2565-66 จากการมาของโครงการใหม่ๆ โดยคาดว่า BCPG จะได้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 150 MW ใน Q4/65 จากการลงทุนด้วยเงินเพิ่มทุนในเชิงของกำไรปกติคาด 1.73 พันล้านบาท เท่าเดิมในปี 2563 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้น 20.5% เป็น 2 พันล้านบาทในปี 2564 และ 6.8% เป็น 2.2 พันล้านบาทในปี 2565 และ 10.3% เป็น 2.4 พันล้านบาทในปี 2566

คาดเงินเพิ่มทุนหนุนงบดุล และโอกาสในการทำ M&A บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทุน โดยจะประชุมในวันที่ 7 ต.ค. และขึ้นเครื่องหมาย XR ในวันที่ 14 ต.ค. จำนวน 1.03 หมื่นล้านบาท ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 3.02 พันล้านหุ้น จากเดิมที่ 2 พันล้านบาท นอกจากนี้ ยังไม่ได้รวมผลของ Private Placement 283 ล้านหุ้น และมองว่า หาก BCPG มีแผนที่จะขยายกิจการเพิ่มขึ้นในอนาคตการเพิ่มทุนจะทำให้ D/E ลดลงจาก 1.8 เท่าในปัจจุบัน เป็น 0.7 เท่าสำหรับปี 2566

ความเคลื่อนไหวของหุ้น BCPG อยู่ที่ 12.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.84% มูลค่าการซื้อขาย 7.20 ล้านบาท