รีเซต

ติดตั้งเตาเผาไฟฟ้า ฌาปนกิจผู้เสียชีวิตสังหารหมู่ เผย 2 ศพ ครอบครัวดำเนินการเอง

ติดตั้งเตาเผาไฟฟ้า ฌาปนกิจผู้เสียชีวิตสังหารหมู่ เผย 2 ศพ ครอบครัวดำเนินการเอง
มติชน
10 ตุลาคม 2565 ( 13:17 )
93
ติดตั้งเตาเผาไฟฟ้า ฌาปนกิจผู้เสียชีวิตสังหารหมู่ เผย 2 ศพ ครอบครัวดำเนินการเอง

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ วัดศรีอุทัย บ้านท่าอุทัยเหนือ หมู่ 12 ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู หนึ่งในสถานที่บำเพ็ญกุศลศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุสังหารหมู่ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากจะมีชาวบ้านและญาติผู้เสียชีวิตร่วมทำบุญตามประเพณีออกพรรษาแล้ว ยังร่วมกันทำบุญสร้างสะพานบุญให้กับผู้เสียชีวิตไปสู่สรวงสวรรค์กับทางวัดอีกด้วย

 

ส่วนบริเวณข้างเมรุเผาศพ บริษัท สยามเอ็นจิเนอร์ริ่ง แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด นำโดย นายณรงค์ ใช้บางยาง กรรมมการผู้จัดการ นำเตาเผาไฟฟ้าปลอดมลพิษมาติดตั้งเพื่อใช้เป็นที่เผาศพผู้เสียชีวิต จำนวน 9 ราย ส่วนอีก 2 ศพ ญาติพี่น้องจะนำไปฌาปนกิจเองที่บ้านของตัวเอง ในพื้นที่ ต.นาคำไฮ อ.เมืองหนองบัวลำภู

 

นายณรงค์กล่าวว่า วันนี้มีการเตรียมอุปกรณ์ถาดรองรับอัฐิของผู้เสียชีวิตที่จะใช้ทำการฌาปนกิจให้เพียงพอ สามารถฌาปนกิจผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้ครบถ้วน ซึ่งเตาเผาที่ใช้นี้จะใช้ไฟประมาณ 220 โวลต์ ขนาด 30 แอมแปร์ โดยนายอำเภอนากลางได้ประสานกับการไฟฟ้าไว้ให้แล้ว

 

นายณรงค์กล่าวว่า การเผาแต่ละศพใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง สามารถทำการฌาปนกิจให้เสร็จได้ภายในวันเดียว ซึ่งทีมงานของบริษัทเดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้และเช้านี้กำลังติดตั้ง ใช้ทีมงานประมาณ 20 คน สำหรับงานนี้มาช่วยกันโดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากติดตั้งเตาเผาไฟฟ้าเสร็จแล้วทีมงานทั้งหมดจะไปทำเตาเผาชั่วคราวที่ วัดเทพมงคลพิชัย บ้านหนองด่าน จากนั้นจะไปทำเตาเผาชั่วคราวที่ ลานวัดราษฎร์สามัคคี บ้านหนองกรุงศรี ต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ วัดราษฎร์สามัคคี บ้านหนองกุงศรี มีการนำหินคลุกมาเทปรับพื้นที่เพื่อจัดเตรียมเป็นสถานที่ฌาปนกิจ จำนวน 19 ศพ

โดยมีชาวบ้าน ร่วมกับเจ้าหน้าที่คำนวณแบ่งพื้นที่ให้เพียงพอต่อการนำศพมาวางเผา ต่อมา มีชาวบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ และผู้นำหมู่บ้านที่มีความรู้เรื่องการทำพิธีฌปานกิจตามความเชื่อของชาวอีสานได้ทจุดธูปบอกกล่าว ขอธรณีในการจะนำศพมาเผาในที่ดินบริเวณนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วการจะนำศพไปเผาบริเวณใดในป่าช้านั้น คนอีสานจะใช้การโยนไข่ตามป่าช้า หากคนเสียชีวิตต้องการจะอยู่ตรงไหนไข่จะแตก หากโยนไข่ไปแล้วไม่แตกก็จะต้องโยนหาจนกว่าจะได้ที่ แต่สำหรับในครั้งนี้ พื้นที่การเผาจะต้องทำในวัด ไม่มีที่โยน จึงใช้วิธีการจุดธูปบอกกล่าวธรณีตามพื้นที่ที่กำหนดจะเป็นเชิงตะกอนสำหรับการเผาศพ

เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับบรรดาญาติทั้ง 19 ศพ ทั้งหมดพร้อมใจจัดพิธีเผาจริงหลังจากงานพระราชทานเพลิงศพ โดยไม่แยกจากกัน สำหรับ 19 ศพนั้น ไม่ได้นับถึงศพทารกในครรภ์ (“น้องซีวิค” ลูกในครรค์ของครูพร) แต่นับรวมแม่ลูกเป็น 1 ศพ

เจ้าอาวาสกล่าวว่า สำหรับการสร้างเมรุชั่วคราวที่จะใช้ดำเนินการกับ 19 ศพนั้น ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคมา รวมทั้งมีจิตอาสามาเป็นช่างควบคุมการก่อสร้าง โดยใช้แรงงานทหารค่ายศรีสองรัก จ.เลย และอื่นๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง