แจกเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็จเฟสสามจ่อเข้าครม.อายุ 16-20 ปี รอรับไตรมาสสองปีนี้

”จุลพันธ์“เผย แจกเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็จเฟสสามจ่อเข้าครม.อายุ 16-20 ปี รอรับไตรมาสสองปีนี้ ส่วนอายุ 21-59 ปี ได้รับเฟสถัดไปภายในปีนี้
#ทันหุ้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าโครงการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตเฟสสามสำหรับประชาชนอายุ 16-20 ปี โดยคาดว่ารัฐบาลจะโอนเงินให้กับประชาชนกลุ่มดังกล่าวได้ภายในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ โดยขณะนี้กระทรวงการคลังได้เสนอรายละเอียดโครงการเพื่อเตรียมเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของคณะรัฐมนตรี(ครม.)แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งหนังสือเวียนถามความเห็นหน่วยงาน
สำหรับระบบการจ่ายเงินผ่านดิจิทัล วอลเล็ต นั้น ขณะนึ้ ดำเนินการเสร็จแล้ว ซึ่งจะเป็นการใช้จ่ายบนแอปพลิเคชันทางรัฐ ทั้งในส่วนผู้รับสิทธิ และร้านค้า ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบระบบ และพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีประสิทธิภาพ เหลือส่วนที่เป็นการเชื่อมระบบดิจิทัล วอลเล็ตกับธนาคาร และนอนแบงก์รวมถึง ผู้ให้บริการวอลเล็ต ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย มีทางเลือกในการใช้จ่าย
“ตอนนี้ผมได้เห็นตัวระบบแล้ว ถือว่าใช้ได้ มีฟังก์ชันและกลไกครบถ้วน ถือว่าดูดี เชื่อว่าภายในไตรมาสที่ 2 นี้ ก็คงจะได้เติมเงินเข้าไปในระบบ ให้กับประชาชนกลุ่มแรกที่ได้รับเงินผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ได้ใช้กัน”
ขณะที่ ประชาชนกลุ่มถัดไป คือ กลุ่มอายุ 21-59 ปีนั้น ยืนยันว่า สุดท้ายประชาชนทุกคนที่ลงทะเบียนและผ่านเงื่อนไขของโครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะได้รับเงิน 10,000 บาท เชื่อว่าอีกไม่นานก็น่าจะมีความชัดเจน คาดว่าไม่เกินไตรมาสที่ 3 ปีนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลมีงบประมาณสำหรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เหลืออยู่ 1.3-1.4 แสนล้านบาทที่ทำการผูกพันงบประมาณไว้ โดยจะต้องใช้ภายในปีงบประมาณ 2568 หรือภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการคำนวณช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อรักษาโมเมนตั้มทางเศรษฐกิจให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับวงเงินที่เหลืออยู่ดังกล่าวนั้น เป็นกรอบวงเงินที่รวมอยู่ในโครงการเฟส 3 และเฟส 4 หากรวมทั้งสิ้นมีประชาชนผ่านเงื่อนไขเกินวงเงินงบประมาณที่มีอยู่ ยืนยันว่ารัฐบาลมีวิธีการที่จะดูแล
“สิ่งที่กระทรวงการคลังให้ความสำคัญ คือ เม็ดเงินของโครงการที่จะใส่ลงไปต้องหมุนในจังหวะที่มีความเหมาะสม และส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจไทยมีการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ กระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ที่ 3% ต่อปี เราเชื่อมั่นว่าจะทำได้ตามเป้า”