‘ไทยพาณิชย์’ หวั่นตลาดหุ้นไทยเดือน ต.ค. หลุด 1,200 จุด คาดจีดีพีไทย ปี'63 ติดลบ 7.8%

‘ไทยพาณิชย์’ หวั่นตลาดหุ้นไทยเดือน ต.ค. หลุด 1,200 จุด คาดจีดีพีไทย ปี’63 ติดลบ 7.8%
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนตุลาคม 2563 ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในจุดต่ำสุด และหลุดระดับ 1,200 จุด แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ เท่านั้น สาเหตุมาจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย
นายสุกิจ กล่าวว่า ส่วนการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 2563 คาดว่าจะติดลบอยู่ที่ระดับ 7.8% ซึ่งถือเป็นการติดลบที่ลึกมากขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบเพียง 5.9% เพราะได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวช้ากว่าคาดของภาคท่องเที่ยว รวมถึงความกังวลต่อหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) หลังมาตรการสิ้นสุดการพักชำระหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะหมดลงช่วงวันที่ 22 ตุลาคม 2563 และอัตราการว่างงานที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
“ผลจากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กลับมาใช้เกณฑ์ชอร์ตเซล และซิลลิ่งฟลอร์ตามปกติ อาจส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนสูงขึ้น โดยปัจจุบันดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,243 จุด ซึ่งเป็นระดับที่น่าจะเข้าไปลงทุนได้ หรืออยู่ในเกณฑ์ 1,250 จุด และระดับ 1,200 จุด โดยคาดว่าในปีนี้ตลาดหุ้นจะปิดตลาดอยู่ที่ 1,300 จุด ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่า หากมีวัคซีนออกมาและสามารถใช้ได้จริง จะช่วยผลักดันให้ดัชนีหุ้นปรับตัวสูงขึ้นไปอยู่ในระดับ 1,500-1,600 จุดได้ โดยหวังว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถกลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง ในช่วงไตรมาส 1/2564 โดยตั้งเป้าหมายหุ้นไทยปี 2564 จะสามารถทำจุดสูงสุดได้ที่ 1,400 จุด” นายสุกิจกล่าว
นายสุกิจ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 4/2563 ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากยังมีปัจจัยบวกน้อย และตลาดหุ้นยังมีความผันผวนสูง จากปัจจัยเสี่ยงทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ สถานการโควิด-19 ในประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปอย่างช้าๆ และนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ในส่วนหุ้นกลุ่มเสี่ยงที่ควรเลี่ยงลงทุน เพราะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและการระบาดโควิด อาทิ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว การบิน ปิโตรเคมี และพลังงาน ส่วนกลุ่มหุ้นแนะนำลงทุนเน้นหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพสูง อาทิ เกษตร, อิเล็กทรอนิกส์, โรงไฟฟ้า และอาหาร