เจ้าของยัน ไม่มีความคิดขายที่ดินจุดที่ขุดพบบ่อ "น้ำพุโซดา"
วันนี้( 17 ก.พ.64) ความคืบหน้า การขุดค้นพบบ่อน้ำพุโซดา ในพื้นที่ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งล่าสุดบริเวณบ่อน้ำพุโซดา ยังคงมีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านจากหลายพื้นที่เดินทางเข้ามาถ่ายรูปกับบ่อน้ำพุโซดาดังกล่าวกันอย่างเนืองแน่น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาคอยจัดการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถที่ขับผ่านไปมา รวมถึงจัดระเบียบให้กับร้านค้าที่มาตั้งขายสินค้าบริเวณริมถนนใกล้เคียงบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งในวันนี้มีปริมาณร้านค้ามากกว่าทุกวันที่ผ่านมา คาดว่าเป็นผลมาจากการที่ทางอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแถลงข่าวยืนยันว่าน้ำในบ่อน้ำพุโซดา เป็นน้ำแร่ที่มีปริมาณแร่ธาตุสูงและดีที่สุดในประเทศไทย จึงทำให้ผู้คนจากทั่วสารทิศจังได๋เข้ามาที่บ่อน้ำพุโซดา เพื่อหวังจะได้ตักน้ำภายในบ่อไปดื่มกิน แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะทางเจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้มีการตักน้ำในบ่อได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายสุเวทย์ หรือ โก๊เกี้ย อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ขุดพบบ่อน้ำพุโซดา เพื่อพูดคุยถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับราคาที่ดินบริเวณบ่อน้ำพุโซดาที่มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าของยืนยันว่า ข่าวเรื่องราคาที่ดินปรับราคาสูงขึ้นน่าจะเป็นการคาดการณ์ของชาวบ้านที่ทราบข่าวมากกว่า แต่โดยส่วนตัวแล้วจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีนายทุนหรือผู้ที่สนใจจะซื้อที่ดินในบริเวณบ่อน้ำพุโซดาเข้ามาติดต่อขอซื้อที่ดิน หรือสอบถามราคาแต่อย่างใด
พร้อมยืนยันว่า ไม่มีความคิดที่จะขายที่ดินบริเวณที่ขุดพบบ่อน้ำพุโซดาแต่อย่างใด ซึ่งที่ดินบริเวณไร่อ้อยที่ขุดค้นพบบ่อน้ำพุโซดาของตนนั้นมีอยู่ประมาณ 40 ไร่ ซึ่งตนได้ทำการเกษตรปลูกไร่อ้อยมาตั้งแต่เมื่อปี 2520 ที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมาโดยตลอด กระทั่งตนได้ทดลองขุดเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ที่ความลึกประมาณ 60 เมตร ก็พบว่ามีน้ำบาดาลอยู่ในพื้นที่ กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ลงพื้นที่มาสำรวจ เพื่อจะจัดทำโครงการสำรวจหาแหล่งน้ำใต้ดิน แต่ทางเจ้าของพื้นที่ในบริเวณตำบลห้วยกระเจาซึ่งทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลคาดว่าจะมีน้ำบาดาลอยู่ใต้ดินไม่มีใครยินยอมให้ดำเนินการขุดเจาะ มีเพียงตนที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้ามาขุดเจาะในพื้นที่ กระทั่งขุดพบบ่อน้ำพุโซดาดังกล่าว
โดยจนถึงขณะนี้มีการขุดพบบ่อน้ำจำนวน 3 บ่อ เป็นบ่อน้ำพุ 2 บ่อและบ่อน้ำธรรมดาอีก 1 บ่อ ขั้นตอนต่อไปทางเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะต้องดำเนินการขุดเจาะเพิ่มอีก 3 บ่อเพื่อให้ครบ 6 บ่อ จึงจะสามารถนำน้ำที่ขุดขึ้นมาได้แจกจ่ายให้กับชาวบ้านทั้งในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจาและอำเภอบ่อพลอยใช้ประโยชน์ได้ ส่วนประเด็นเรื่องการทับซ้อนของที่ดินบริเวณที่ขุดเจาะพบบ่อน้ำพุโซดา ซึ่งยังมีการถกเถียงกันว่าเป็นพื้นที่ของอำเภอบ่อพลอย ในพื้นที่ของอำเภอห้วยกระเจานั้น ทาง โก๊เกี้ย ยืนยันว่า เรื่องของจุดที่ขุดค้นพบน้ำพุโซดาแม้จะอยู่ในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจาหรืออำเภอบ่อพลอยก็ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะประเด็นหลักที่มีการขุดค้นพบบ่อน้ำพุโซดานั้น ก็เพื่อต้องการให้ชาวบ้านในทั้ง 2 อำเภอที่ขาดแคลนน้ำได้มีน้ำไว้ใช้สำหรับการอุปโภคและบริโภคอย่างเพียงพอ ส่วนที่ดินที่ขุดพบจะอยู่ในพื้นที่อำเภอบ่อพลอยหรืออำเภอห้วยกระเจาจึงไม่น่าใช่ประเด็นที่จะต้องมาถกเถียงกัน
ขณะที่ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ ที่บ่อน้ำพุโซดาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ในระหว่างขั้นตอนของการออกแบบเครื่องกรองน้ำ และจัดเตรียมความพร้อมของสถานที่ ที่จะติดตั้งเครื่องกรองน้ำ หากออกแบบเสร็จเรียบร้อยและจัดเตรียมพื้นที่จนแล้วเสร็จใช้เวลาติดตั้งเพียง 2 วันก็จะสามารถเปิดดำเนินการกรองน้ำได้ทันที คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ชาวบ้านน่าจะสามารถดื่มน้ำที่ผ่านการกรองจากบ่อน้ำพุโซดาได้อย่างแน่นอน