จับตาโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ดุ-ดื้อ น่ากังวลมากที่สุดต่อการกระจายโรค

วันนี้ (24พ.ค.64) ภายหลังจากคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี สุ่มตรวจตัวอย่างเชื้อ ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยพบ เชื้อโควิดสายพันธ์แอฟริกาใต้ จำนวน3ราย ทางศบค. ออกมาระบุว่าไทยได้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด และมีการคุมโรค กักกันโรคในพื้นที่อย่างเต็มที่ 

นพ.โอภาส  การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ผู้ติดเชื้อทั้ง3ราย ที่พบติดเชื้อโควิด สายพันธุ์แอฟริกาใต้ตอนนี้ รักษาหายแล้ว  โดยการพบสายพันธุ์แอฟริกาใต้นั้น มีความเป็นไปได้ว่าอาจหลุดมาจากการลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติที่มีชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย จนมาสู่การระบาดเป็นกลุมก้อนในพื้นที่

ซึ่งสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ไทยได้เฝ้าติดตามและระวังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีข้อบ่งชี้ว่าสายพันธุ์ดังกล่าว การตอบสนองของวัคซีน อาจจะไม่ดีเท่ากับสายพันธุ์อื่น

ส่วนความสามารถในการแพร่กระจายของโรค พบว่า สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ยังใกล้เคียงกับสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อังกฤษหรือสายพันธุ์อินเดีย

ขณะที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย ระบุว่า สายพันธุ์แอฟริกาใต้ มีความรุนแรงโรคมากกว่าสายพันธุ์อื่น คือ ติดง่าย แพร่กระจายโรคได้ง่าย  โดยสายพันธุ์แอฟริกาใต้ มีการหลบหลีกภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เก่งกว่าสายพันธุ์อื่น รวมถึงขณะนี้ทั่วโลกยังไม่มีวัคซีนใดที่จะยับยั้งสายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้

ส่วนสายพันธุ์ บราซิล นั้นยังไม่น่ากังวลเมื่อเทียบกับสายพันธุ์แอฟริกาใต้ เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ ลูกหลานของสายพันธุ์แอฟริกาใต้ซึ่งการพัฒนาวัคซีนตอนนี้ จึง ควรมุ่งตรงไปที่สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ส่วนสายพันธุ์บราซิล อย่างน้อย ในวัคซีนซิโนแวค ยังสามารถใช้ได้ผล ในประเทศบราซิลและประเทศชิลี

ศ.นพ.ธีระวัฒน์  กล่าวย้ำว่า แนวทางคุมโรคตอนนี้  ต้องคุมเชื้อไวรัสที่กำลังระบาดให้ได้ก่อน  นั่นคือการฉีดวัคซีนต้องเร็วที่สุดมากที่สุด ภายใน 2 เดือนนี้  

ทั้งนี้ ทั่วโลกมีการจับตาเชื้อโควิด อยู่ 4 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์บราซิล สายพันธุ์อินเดียและสายพันธุ์แอฟริกาใต้ โดยพบว่าสายพันธุ์แอฟริกาใต้เป็นสายพันธุ์ที่มีความน่ากังวลมากที่สุดในการแพร่กระจายโรค