ผู้ปกครองพาเด็ก 14 มอบตัว หลังสารภาพยิงเด็ก 16 บาดเจ็บสาหัส ตำรวจเร่งดำเนินคดี
มอบตัวแล้ว! ที่แท้เด็กเยาวชนวัย 14 ปี ก่อเหตุยิงเด็กวัย 16 ปีเจ็บสาหัส หน้าโรงยิมเทศบาลฯ รับสารภาพบังเอิญมาเจอคนเจ็บพอดี หลังจากแค้นที่คนเจ็บเคยข่มขู่ “ระวังจะตายโดยไม่รู้ตัว” แถมเพื่อนคนเจ็บเคยพยายามใช้มีดแทง ก่อนจะลงมือใช้อาวุธปืนขนาด .38 ที่ประดิษฐ์เองจ่อยิงต้นคอ
จากกรณีมีคนร้าย 2 รายขี่รถจักรยานยนต์โดยคนซ้อนท้ายลงจากรถก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายกิตติศักดิ์ โพชสาลี หรือเบส อายุ 16 ปี ที่ต้นคอ กระสุนฝังในบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดหน้าโรงยิมเนเซียม สนามกีฬาทุ่งแจ้ง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง นั้น
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 24 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ผู้ปกครองได้นำตัว ด.ช.เอ (นามสมมติ)อายุ 14 ปี ผู้ก่อเหตุ ชาว ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง พร้อมด้วย นายบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาว ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง คนขับรถ เข้ามอบตัวกับ ร.ต.ท.พันธรักษ์ พงศ์พฤกษธาตุ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง เจ้าของคดี ก่อนจะมีการสอบปากคำ ต่อมากำลังชุดสืบสวน ได้คุมตัวไปให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เก็บลายนิ้วมือและคราบเขม่าดินปืนบริเวณฝามือและแขน พร้อมทั้งทำบันทึกการจับกุม และประวัติของเยาวชนทั้ง 2 ราย
จากการสอบปากคำ ด.ช.เอ มือยิง ให้การรับสารภาพว่า ตนเองไม่ได้เรียนหนังสือ จบการศึกษาชั้น ป. 5 รู้จักกับคนเจ็บ โดยเมื่อช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนของผู้บาดเจ็บ ได้ทะเลาะกับตน ก่อนจะใช้ขาเตะพร้อมกับใช้อาวุธมีดพยายามแทงตน แต่สามารถจับมือเอาไว้ได้ และหนีมาได้ทัน ต่อมาคนเจ็บกลับพูดข่มขู่ตนว่า ‘ระวังไว้จะตายไม่รู้ตัว’ ทำให้ตนเกิดความแค้น แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร จนกระทั่งบังเอิญตนขับรถมากับเพื่อนเพื่อมาดูสาวๆที่หน้าโรงเรียน ปรากฏว่าได้พบเจอคนเจ็บพอดี จึงใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุนขนาด .38 ยิงเข้าที่ต้นคอคนเจ็บ ส่วนอาวุธปืนได้นำไปทิ้งภายในบ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาล และปืนกระบอกดังกล่าวตนเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมาเอง โดยนำไปให้ช่างเหล็กกลึงให้ และพกติดตัวตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามผู้บาดเจ็บยังอาการโคม่า และอยู่ในระหว่างการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนบาดเจ็บได้ออกจากบ้านในพื้นที่ อ.สิเกา เพื่อไปหาปลากัดกับเพื่อนใน อ.นาโยง หลังจากหาเสร็จได้ขับรถมาจอดเล่นที่หน้าโรงยิมเทศบาล จนบังเอิญทำให้ผู้ก่อเหตุมาพบเห็นเข้าพอดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป