แม่ช็อก! หนุ่มขับตามจีพีเอสไปหาแฟนสาว รถพุ่งตกเจ้าพระยา หา 2 วันยังไม่เจอ
ข่าววันนี้ 7 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ในจุดทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ทางหลวงหมายเลข 122 พื้นที่ ต.กลางแดด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังมีรายงานว่า มีผู้ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์หรู พุ่งทะลุทางกลับรถใต้สะพาน และตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุเกิดช่วงกลางดึกวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา
ซึ่งมีทีมนักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยนครสวรรค์ นำอุปกรณ์ดำน้ำ และเรือเข้าร่วมค้นหามากว่า 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แวว เนื่องจากการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณมาก และมีน้ำสีขุ่น เป็นสีน้ำตาล
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำจากทีมกู้ภัย ยังคงระดมทีมร่วมปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายในจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งทราบว่าผู้ที่ขับรถยนต์มาประสบอุบัติเหตุแล้วพุ่งตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา คือ นายธีระภัทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ลูกชายของร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตรรายใหญ่ ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งสูญหายไปพร้อมกับรถยนต์ SUV คู่ใจ ยี่ห้อฟอร์ด เอฟเวอเรสต์ สีแดง ทะเบียน 6702 กรุงเทพมหานคร
โดยนางพินิจ แม่ผู้สูญหาย ให้ข้อมูลว่า วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 5 พ.ย.64 ลูกชายเดินทางมาหาหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ชื่อน.ส.แพรว ในพื้นที่ อ.มโนรมณ์ จ.ชัยนาท หลัง น.ส.แพรวชักชวนให้ลูกชายขับรถมาหา เพื่อไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนของน.ส.แพรว ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ แล้วขากลับไปประสบอุบัติเหตุขับรถพุ่งลงแม่น้ำดังกล่าว
นางพินิจ กล่าวต่อว่า วันนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 22.00 น. ซึ่งตนกำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่จู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ซึ่งปลายสายเป็นเบอร์ของลูกชายโทรมาบอกว่า ขับรถประสบอุบัติเหตุพุ่งตกลงไปในแม่น้ำ และรถกำลังจะจม
จากนั้น จู่ๆ ก็ตัดสายทิ้งไป ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จนทำให้ตนรีบบอกครอบครัวทุกคนในบ้าน เพื่อให้ช่วยกันหาทางติดต่อลูกชายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากขณะนั้นรู้ว่าลูกเดินทางมาหาแฟนที่จ.ชัยนาท แต่ไม่รู้ว่าไปประสบอุบัติเหตุบริเวณไหน จนกระทั่งตรวจสอบจีพีเอสโทรศัพท์ของลูกชาย ก็พบสัญญาณอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำในจุดถนนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในที่เกิดเหตุมี น.ส.แพรว เพื่อนสาวคนสนิทของนายธีระภัทร์ เดินทางมายังจุดที่เกิดเหตุด้วย พร้อมกับให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยน.ส.แพรว ระบุว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนและนายธีระภัทร์ ใช้รถกันคนละคัน เนื่องจากในวันนั้นนายธีระภัทร์ขับรถมาจากจ.สุพรรณบุรี มาถึงที่บ้านของน.ส.แพรว ช้า จึงทำให้ น.ส.แพรวต้องออกจากบ้านไปซื้อเค้กวันเกิดให้กับเพื่อนรักก่อน แล้วก็รีบเดินทางมาที่ อ.เมืองนครสวรรค์ทันที โดยให้นายธีระภัทร์ขับตามมาร่วมงานทีหลัง จนกระทั่งเลิกงาน น.ส.แพรวก็ขับรถนำหน้าเพื่อกลับบ้านที่จ.ชัยนาท แล้วให้นายธีระภัทร์ขับรถตามหลังมา
แต่ปรากฏว่าในระหว่างทางนายธีระภัทร์ ซึ่งไม่ชินเส้นทาง ขับตามไม่ทันก็เกิดหลงกันในจุดบริเวณทางเลี่ยงเมือง โดยตอนนั้นน.ส.แพรวขับห่างออกไปไกลแล้ว เพราะไม่ทราบว่านายธีระภัทร์เกิดหลงทางขับตามไม่ทัน จึงโทรศัพท์กลับไปหา แต่นายธีระภัทร์ก็บอกมาว่าไม่ต้องรอให้ขับกลับไปได้เลย เพราะมีจีพีเอสนำทางสามารถขับกลับได้น.ส.แพรว จึงบอกว่าจะขับไปจอดรอที่ปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ แต่สุดท้าย ก็ไม่พบว่านายธีระภัทร์ขับตามมาหาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลด้วยว่าน.ส.แพรวและนายธีระภัทร์ ผู้สูญหาย เพิ่งจะคบหากันได้เพียง 4 เดือน โดยทั้งนายธีระภัทร์และน.ส.แพรว ต่างก็มีกิจการขายอุปกรณ์เครื่องมือการเกษตร ที่พบเจอกันครั้งแรก ตอนที่ไปร่วมงานสัมมนาค้าขายอุปกรณ์งานหนึ่ง แล้วพูดคุยติดต่อกันเรื่อยมา จนได้คบหากัน อีกทั้งนายธีระภัทร์ยังเคยพาพ่อแม่ไปพบและรับประทานอาหารร่วมกับครอบครัวของน.ส.แพรวมาแล้วครั้งหนึ่ง
ส่วนนายธีระภัทร์ถือเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ที่ถึงแม้จะเป็นคนเรียบง่าย ไม่ชอบความหรูหรา แต่ก็ถือเป็นลูกชายหลักที่ต้องมาดำเนินธุรกิจต่อจากพ่อและแม่ในอนาคต จึงทำให้นางพินิจเสียใจเป็นอย่างมาก ถึงกับร้องห่มร้องไห้อยู่เกือบตลอดเวลา