รีเซต

PRMรับทรัพย์โลจิสติกส์บูม ลุ้นจ่ายปันผลระหว่างกาล

PRMรับทรัพย์โลจิสติกส์บูม ลุ้นจ่ายปันผลระหว่างกาล
ทันหุ้น
19 กันยายน 2566 ( 14:53 )
47
PRMรับทรัพย์โลจิสติกส์บูม ลุ้นจ่ายปันผลระหว่างกาล

PRM รับอานิสงส์น้ำมันขาขึ้น หนุนดีมานด์โลจิสติกส์ทะลัก พร้อมเล็งศึกษาเรื่องจ่ายปันผลระหว่างกาล คาดชัดเจนหลังประกาศงบ Q3/2566 ผู้บริหาร “วิริทธิ์พล  จุไรสินธุ์” ตอกย้ำปี 2566 รายได้เติบโต 10% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว

 

นายวิริทธิ์พล  จุไรสินธุ์  ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นบริษัทมองถือเป็นผลบวกต่อการดำเนินงาน เนื่องจากจะช่วยผลักดันให้ความต้องการขนส่ง (โลจิสติกส์) น้ำมันของผู้ประกอบการในประเทศปรับตัวสูง เพื่อสำรองรองรับความต้องการและบริษัทจัดการสต๊อกคงคลังให้มีประสิทธิภาพ

 

เล็งปันผลระหว่างกาล

 

นอกจากนี้ ทาง PRM อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการจ่ายปันผลระหว่างกาลปี2566 หลังช่วงครึ่งแรกปีนี้บริษัทมีกำไรแล้วราว471 ล้านบาท โดยคงจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อพิจารณาอนุมัติและน่าจะได้เห็นความชัดเจนภายหลังประกาศงบการในไตรมาส3/2566

 

ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 3/2566 บริษัทคาดยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีใกล้เคียงกับไตรมาส2/2566 ผลมาจากดีมานด์ขนส่งในประเทศปรับตัวดีขึ้น

 

ปีนี้รายได้โต 10%

 

อย่างไรก็ดี รายได้ปีนี้บริษัทยังคงการเติบโตได้ตามเป้าหมาย10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่บริษัทมีรายได้รวม7.78 พันล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากเรือบรรทุกน้ำมันในประเทศ ระหว่างประเทศและน่าจะมาจากปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในประเทศที่สูงขึ้นรวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในระหว่างไตรมาส ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอีกทางหนึ่งด้วย

 

สำหรับแนวทางการบริหารงาน ทาง PRM ยังเดินหน้าในการลงทุนต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะซื้อเรือขนส่งปิโตรเคมีเพิ่มเติมอีก1 ลำจากก่อนหน้านี้มีการลงทุนไปแล้ว 1 ลำ รวมไปถึงการลงทุนเรือAccommodation Work Barge (AWB) อีก 1 ลำ และซื้อเรือ Crew Boat เพิ่ม 1 ลำ เดือนพฤศจิกายน 2566

 

สตอรี่เด่นเป้า 8.5 บ.

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ"ซื้อ" หุ้น PRM ประเมินราคาเป้าหมาย8.50 บาท เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์มองภาพรวมในช่วงที่เหลือปี 2566 ยังมีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

 

โดยฝ่ายวิเคราะห์จะมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจ Offshore จะเติบโตโดดเด่นสุดในครึ่งปีหลัง 2566 จากเรือทุกลำที่ให้บริการได้เต็มที่ และรับ Crew Boat เพิ่ม 1 ลำ เดือนพฤศจิกายน2566, Domestic Trading ยังเติบโตดีต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวและเที่ยวบินฟื้นตัว และรับเรือใหม่เพิ่ม 1 ลำในเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนสนับสนุนการเติบโตแทบทั้งสิ้น

 

ดีล M&A เพิ่มมูลค่า

 

ขณะเดียวกันในส่วนของ International Trading จะดีขึ้นเล็กน้อยจากเรือ Aframax ที่มีจำนวนวันให้บริการเพิ่มขึ้น, FSU จะชะลอตัว เนื่องจากจะมีการขายเรือ 1 ลำ ในไตรมาส 3/2566  ทำให้จำนวนเรือ FSU เหลือ 5 ลำ และ ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า PRM จะมุ่งเน้นขยายธุรกิจ Offshore และ Domestic Trading มากสุด ทั้งการเพิ่มเรือ, ขยายบริการใหม่ๆ รวมถึงการทำ M&A

 

ดังนั้น ฝ่ายวิเคราะห์จึงประมาณการกำไรปกติปี 2566  ที่ 2.2 พันล้านบาท +39% จากปีก่อน  โดยครึ่งปีแรก 2566 คิดเป็น 49% จากทั้งปี สำหรับกำไรปกติไตรมาส 3-4 ปีนี้คาดจะดีขึ้นจาก ไตรมาส 2/2566 ได้ต่อเนื่อง จากการเพิ่มเรือใหม่, มีเรือเข้า Dry Dock ลดลง และการเติบโตของการท่องเที่ยวช่วยให้ความต้องการขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้น

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง