21 มิ.ย. วันครีษมายัน กลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี

ในวันที่ 21 มิถุนายนของปีนี้ โลกจะเข้าสู่ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เรียกว่า “วันครีษมายัน” (Summer Solstice) ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาล โดยเฉพาะสำหรับประเทศที่อยู่ในซีกโลกเหนือ รวมถึงประเทศไทยด้วย วันดังกล่าวเป็นวันที่ดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้านานที่สุดของปี ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันยาวนานกว่ากลางคืนอย่างชัดเจน
ในเชิงดาราศาสตร์ วันครีษมายันคือช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรขึ้นไปถึงตำแหน่งเหนือสุดของทรงกลมฟ้า หรือเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์ (Tropic of Cancer) ซึ่งอยู่ที่ละติจูดประมาณ 23.5 องศาเหนือ โดยนับจากช่วงเดือนมีนาคม (วันวิษุวัตฤดูใบไม้ผลิ) ดวงอาทิตย์จะค่อย ๆ เคลื่อนตัวจากซีกโลกใต้ขึ้นเหนือเรื่อย ๆ และไปถึงจุดสูงสุดในวันที่ 21 มิถุนายน จากนั้นจึงเริ่มเคลื่อนกลับลงใต้ ซึ่งการเคลื่อนตัวนี้เกิดจากความเอียงของแกนโลกที่ทำมุมประมาณ 23.5 องศา
ในวันครีษมายัน ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และตกลงทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุดเช่นกัน ส่งผลให้เส้นทางของดวงอาทิตย์ที่พาดผ่านท้องฟ้ามีระยะทางยาวและสูงที่สุดในรอบปี ซึ่งหมายความว่าแสงแดดจะส่องถึงพื้นโลกในซีกโลกเหนือนานที่สุด
วันครีษมายันถือเป็นวันเริ่มต้นของฤดูร้อนอย่างเป็นทางการในซีกโลกเหนือ ในทางกลับกัน ประเทศในซีกโลกใต้ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือประเทศในทวีปอเมริกาใต้ จะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในวันเดียวกันนี้
ในบางประเทศที่ตั้งอยู่ใกล้วงกลมอาร์กติก เช่น นอร์เวย์ สวีเดน หรือฟินแลนด์ จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พระอาทิตย์เที่ยงคืน” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ไม่ตกดินเลยตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถมองเห็นแสงสว่างได้แม้ในช่วงเที่ยงคืน
ในรอบหนึ่งปี ปรากฏการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้น 2 ครั้งที่มีความสำคัญ คือ:
- วันครีษมายัน (ปีนี้ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน): ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุด
- วันเหมายัน (21–22 ธันวาคม): ช่วงเวลากลางคืนยาวนานที่สุด
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 วันสำคัญคือ:
- วันวิษุวัต (ประมาณ 21 มีนาคม): กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน เป็นจุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ
- วันศารทวิษุวัต (ประมาณ 23 กันยายน): กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน เป็นจุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วง
นอกจากความสำคัญทางวิทยาศาสตร์แล้ว วันครีษมายันยังมีความหมายในเชิงวัฒนธรรมและจิตวิญญาณในหลายภูมิภาคทั่วโลก หลายประเทศมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในวันนี้มาอย่างยาวนาน เช่นที่อังกฤษ ผู้คนจำนวนมากเดินทางไปยังแหล่งโบราณสถานอย่างสโตนเฮนจ์ เพื่อเฝ้าดูพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งในวันครีษมายัน ดวงอาทิตย์จะขึ้นพาดตรงผ่านเสาหินสำคัญพอดี หรือในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย มีการเฉลิมฉลองที่เรียกว่า “Midsummer” ซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญของปี ผู้คนจะจัดงานเลี้ยง รำวง และทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ส่วนในวัฒนธรรมของชาวมายาและอินคาในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ วันครีษมายันเคยถูกใช้เป็นจุดอ้างอิงสำหรับการบูชาดวงอาทิตย์ และเป็นตัวกำหนดฤดูกาลเกษตรกรรม
ส่วนประเทศไทย แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในแนวละติจูดที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์เที่ยงคืนหรือกลางวันยาวนานสุดโต่งเหมือนประเทศแถบใกล้ขั้วโลกเหนือ แต่วันครีษมายันก็ยังส่งผลต่อรูปแบบของแสงแดดและอุณหภูมิภายในประเทศอย่างชัดเจน โดยในวันนี้ ประเทศไทยจะมีช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดของปี โดยดวงอาทิตย์จะขึ้นเร็วและตกช้ากว่าปกติ เช่น ในกรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 05:51 น. และตกเวลาประมาณ 18:47 น. ซึ่งรวมแล้วทำให้มีช่วงเวลากลางวันนานถึงเกือบ 13 ชั่วโมง นานกว่าช่วงอื่นของปีประมาณ 1 ชั่วโมง
วันครีษมายันเป็นวันที่มีความสำคัญทั้งทางวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม โดยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ซึ่งส่งผลต่อสภาพอากาศ ฤดูกาล และวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก แม้ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติเหล่านี้ยังคงมีอิทธิพลต่อจังหวะชีวิตและการดำเนินชีวิตของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
