ศึกษาพบจีนตต.เฉียงเหนือใช้ 'ถ่านหิน' เป็นเชื้อเพลิงตั้งแต่ 3,600 ปีก่อน

หลานโจว, 3 ส.ค. (ซินหัว) -- ผลการศึกษาฉบับใหม่ของจีนพบว่าการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งถือเป็นตัวผลักดันความก้าวหน้าของอารยธรรมมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ อาจเกิดขึ้นเป็นกิจจะลักษณะในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนตั้งแต่ราว 3,600 ปีก่อน

คณะนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยหลานโจว มหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน และสถาบันวัตถุทางวัฒนธรรมและโบราณคดีเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ได้ตรวจพบกองถ่านหิน ถ่านหินที่ยังไม่ถูกเผาไหม้ ขี้เถ้าถ่านหิน และกากถ่านหินในอำเภอหนีเล่อเค่อ แคว้นปกครองตนเองอีหลี กลุ่มชาติพันธุ์คาซัค ในซินเจียง

ก่อนหน้านี้แม้มีการค้นพบการเผาถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงอยู่ประปรายในแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์บางแห่ง แต่ยังขาดหลักฐานการใช้ประโยชน์อย่างเป็นกิจจะลักษณะในกรอบเวลา 2,500 ปีก่อน ทว่าการค้นพบล่าสุดอาจขยายกรอบเวลาดังเพิ่มขึ้นอีกราว 1,000 ปี

ผลการศึกษานี้ที่เผยแพร่ผ่านวารสารไซแอนซ์ แอดวานซ์ส (Science Advances) ระบุว่าผลวิเคราะห์ทางเคมีเผยว่าเชื้อเพลิงโบราณเหล่านั้นเป็นถ่านหินบิทูมินัส (Bituminous coal) ที่อุดมด้วยคาร์บอน ซึ่งถูกขุดมาจากแนวชั้นถ่านหินใกล้เคียงที่โผล่พ้นออกมาจากผิวดิน

ซากโบราณเหล่านี้สะท้อนว่าผู้ใช้ถ่านหินเลือกใช้มันเป็นเชื้อเพลิงคุณภาพสูงอย่างตั้งใจและการใช้ประโยชน์เกิดขึ้นอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ขณะเดียวกันถ่านหินถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบตามบ้านเรือนและแหล่งผสมโลหะ และใช้งานหลากหลายจุดประสงค์

ผลการศึกษาระบุว่าผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ค้นพบถ่านหินเหล่านี้เมื่อกว่า 4,000 ปีก่อน ใช้ไม้เป็นเชื้อเพลิงหลัก และเปลี่ยนมาใช้ถ่านหินเมื่อ 3,600-2,900 ปีก่อน โดยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางพลังงานดังกล่าวอาจเป็นผลจากความต้องการพลังงานพุ่งสูงขึ้นและความเสื่อมโทรมของพืชพรรณในห้วงเวลานั้น

(แฟ้มภาพซินหัว :พนักงานแสดงก้อนถ่านหินที่เหมืองถ่านหินแห่งหนึ่งในอำเภอจุ่นเก๋อเอ่อร์ เขตปกครองตนเองมองโกเลียในทางตอนเหนือของจีน วันที่ 8 ก.ค. 2023)