"ทรัมป์" ชี้เจรจาสหรัฐ-จีนสุดสัปดาห์นี้สำคัญ มีลุ้นจบดีลภาษี เผยเดือนหน้าเปิดตัวดีลอีกหลายสิบฉบับ

ทรัมป์เผยเจรจาการค้ากับจีนสุดสัปดาห์นี้สำคัญกว่าคาด ไม่แปลกใจหากบรรลุข้อตกลง เผยเดือนหน้าจ่อเปิดตัวดีลอีกหลายสิบฉบับ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (8 พฤษภาคม 2568) ว่า การเจรจาการค้าระดับสูงระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะมีสาระสำคัญมากกว่าที่คาดคิดไว้ในตอนแรก และทรัมป์จะไม่แปลกใจหากสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
"สก็อตต์ เบสเซนต์" รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายสหรัฐฯ ในการเจรจาครั้งนี้ จะไปพบกับ "เหอ หลี่เฟิง" รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจของจีน
ทรัมป์กล่าวว่า เราจะมีช่วงสุดสัปดาห์ที่ดีกับจีน และคิดว่าจีนมีอะไรหลายอย่างที่จะได้ประโยชน์และอาจได้ประโยชน์มากกว่าสหรัฐฯเสียอีก พร้อมระบุว่าตอนนี้จีนแทบไม่มีธุรกิจอะไรเลย เพราะผลจากการขึ้นภาษี จีนอยากกลับมาทำธุรกิจ และสหรัฐฯก็ต้องการเช่นกัน เราอยากเห็นพวกเขาประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ หลังการประกาศข้อตกลงทางการค้ากับสหราชอาณาจักรว่า สหรัฐฯ ต้องการให้จีนเปิดตลาดให้กับสินค้าอเมริกันมากขึ้น
ทรัมป์ยังระบุด้วยว่า เขาอาจจะพูดคุยกับ"ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง" หลังการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งจะถือเป็นการหารือระดับสูงแบบพบหน้ากันครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงมากกับจีน
ทั้งนี้ ทรัมป์ประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) เป็นเวลา 90 วัน ไปจนถึงช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2568 สำหรับประเทศคู่ค้าหลายสิบประเทศ ยกเว้นจีน ซึ่งปัจจุบันยังต้องเผชิญกับภาษีอย่างน้อย 145% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ
สหรัฐฯ เผยเตรียมเปิดตัว"ดีลการค้า" อีกหลายสิบฉบับในช่วงเดือนหน้า
โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (8 พฤษภาม 2568 ) ว่า สหรัฐฯ จะเปิดตัวข้อตกลงทางการค้าหลายสิบฉบับภายในเดือนหน้า แต่คาดว่าการเก็บภาษีจากแต่ละประเทศในอัตรา 10% จะไม่ถูกยกเลิก
ลุตนิกกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีซีเอ็นบีซี (CNBC) ว่า ในช่วงประมาณหนึ่งเดือนต่อจากนี้ เราจะเปิดตัวข้อตกลงหลายสิบฉบับ พร้อมเผยว่า ภาษีขั้นพื้นฐานในอัตรา 10% กับนานาประเทศจะยังคงอยู่เพื่อรักษาดุลการค้ากับสหรัฐฯ ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าด้วยจะถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่านั้น
รัฐมนตรีพาณิชย์ยังเผยอีกด้วยว่า ทางการสหรัฐฯ ตั้งเป้าที่จะลดความตึงเครียดกับจีนผ่านการเจรจาการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าร่วมการประชุมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 10% กับเกือบทุกประเทศ รวมถึงภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงกว่านั้นจากประเทศคู่ค้า ซึ่งถูกระงับเป็นเวลา 90 วัน นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเรียกเก็บภาษีรถถยนต์ เหล็กกล้า และอะลูมิเนียมในอัตรา 25% เรียกเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตลอดจนเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับจีนในอัตรา 145%
สำหรับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเนื่องจากจะถือเป็นการเจรจาระดับสูงแบบตัวต่อตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ทั้งสองชาติเริ่มตอบโต้ด้วยภาษีนำเข้า โดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายสหรัฐฯ ในการเจรจาครั้งนี้ ส่วนฝ่ายจีนจะนำโดย เหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ