CRC เติบโตแกร่งภายใต้แผน 5 ปี SCBS คาดกำไรเด่นสุดกลุ่มพาณิชย์
#CRC #ทันหุ้น - บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) ส่องหุ้น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ในระยะ 5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าที่จะปรับธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับเมกะเทรนด์ โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโต 2.5 เท่า และ EBITDA เติบโต 3.5 เท่า สำหรับปี 2565 CRC ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 20% YoY พร้อมกับ SSS ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจและทุกประเทศ ขยายสาขาเชิงรุกมากขึ้น และรายได้ค่าเช่าฟื้นตัว โดยตั้งเป้าการเติบโตของ EBITDA ที่สองเท่าของการเติบโตของยอดขาย เราชอบ CRC เนื่องจากคาดว่ากำไรปกติ 4Q64 และปี 2565 จะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ (แม้ว่าสมมติฐานปี 2565 ของเรายังต่ำกว่ายอดขายและ EBITDA ที่ CRC ตั้งเป้าไว้) เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ CRC ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 43 บาท
แผน 5 ปี ในระยะ 5 ปีข้างหน้า CRC ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 2.5 เท่า และ EBITDA เติบโต 3.5 เท่า โดยตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1 แสนลบ. ทั้งนี้เพื่อรับมือกับเทรนด์เกิดใหม่ (พฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะพลิกไปสู่รูปแบบใหม่ โลกที่จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็วโดยมีเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นตัวเร่ง ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการดูแลสุขภาพและการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ การร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จและการเติบโตไปด้วยกัน และการมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมและดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน) CRC จะใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้จาก CRC Central Group และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (โมบายแบงก์กิ้ง พันธมิตรค้นหาตลาด ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่) เพื่อสนับสนุนธุรกิจของบริษัท โดยจะนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อในทุกช่องทาง ปรับตัวอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค และสร้างความสัมพันธ์เฉพาะตัวกับลูกค้าแต่ละราย
CRC วางแผนยกระดับแพลตฟอร์มค้าปลีก omnichannel เร่งการขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลัก เดินหน้าสร้างธุรกิจใหม่ และขยายธุรกิจภายใต้แนวคิดสร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ การเข้าซื้อกิจการ และการ spin-off บริษัทวางแผนปลดล็อกมูลค่าโดยนำ MEB (ธุรกิจ E-book ภายใต้ COL ซึ่ง CRC เข้าซื้อกิจการในปี 2564) เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงปลายปี 2565 CRC ตัดสินใจไม่เข้าลงทุนใน Selfridges (ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าในอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และไอร์แลนด์) เนื่องจาก ROI ที่คาดการณ์อยู่ในระดับปานกลาง และบริษัทต้องการมุ่งเน้นตลาดที่เติบโตสูงในประเทศไทยและเวียดนาม เนื่องจากบริษัท ห้างเซ็นทรัลดีพาทเมนท์สโตร์ จำกัด (HCDS, ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ CRC) จะเข้าลงทุนใน Selfridges ดังนั้น CRC จะได้รับประโยชน์ทางอ้อมผ่านการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์กับแบรนด์ระดับโลก
เป้าหมายปี 2565 ในปี 2565 CRC ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตมากกว่า 20% YoY โดยตั้งเป้ารายได้ค้าปลีกเติบโต 15-20% YoY SSS ฟื้นตัวดีขึ้น และขยายสาขาเชิงรุกที่ 500 สาขา (สามเท่าของจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นในปี 2563-64) ทั้งนี้เมื่อแยกตามกลุ่มธุรกิจ CRC ตั้งเป้ายอดขายธุรกิจแฟชั่นเติบโต 30-35% YoY ธุรกิจฮาร์ดไลน์เติบโต 15-20% YoY และธุรกิจฟู้ดเติบโต 5-10% ขณะที่เมื่อแยกตามประเทศ CRC ตั้งเป้ายอดขายในประเทศไทยและเวียดนามเติบโต 15-20% YoY และอิตาลีเติบโต 10-15% CRC ตั้งเป้าสัดส่วนยอดขายจากช่องทาง omnichannel ต่อยอดขายทั้งหมดที่ 25% ในปี 2565 (จาก 20% ในปี 2564, 10% ในปี 2563, 3% ในปี 2562) รายได้จากการให้เช่าจะปรับตัวดีขึ้น YoY เพราะอัตราการเช่าพื้นที่ดีขึ้น ให้ส่วนลดค่าเช่าลดลง และจะมีศูนย์การค้าใหม่ 4 แห่ง
CRC ตั้งเป้าขยายมาร์จิ้น โดยตั้งเป้าการเติบโตของ EBITDA ที่สองเท่าของการเติบโตของยอดขาย จากแรงหนุนยอดขายในธุรกิจแฟชั่นที่ให้มาร์จิ้นสูงฟื้นตัว ยอดขายสินค้า private brand ที่ให้มาร์จิ้นสูงจากธุรกิจฟู้ดและธุรกิจฮาร์ดไลน์เพิ่มขึ้น และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายทรงตัวหรือลดลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจใหม่/รูปแบบร้านใหม่ จะถูกชดเชยโดยค่าใช้จ่ายพนักงาน (ผลิตภาพมากขึ้น) ค่าสาธารณูปโภค (ติดตั้งโซลาร์มากขึ้น) ค่าใช้จ่ายการตลาดและสินค้าล้าสมัย (ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น) ที่ลดลง บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1.8-2.0 หมื่นลบ: 40% สำหรับการขยายสาขา 35% สำหรับการปรับปรุงสาขา 15% สำหรับธุรกิจใหม่/รูปแบบร้านใหม่ และ 10% สำหรับการลงทุนด้านออนไลน์และไอที