รีเซต

ชะอำเดือด! หนุ่มเทศบาลเมืองชะอำชัก 9 มม.ยิงใส่คู่กรณีเจ็บ 2 ทะเลาะเรื่องเตียงผ้าใบ-สปีดโบ๊ต

ชะอำเดือด! หนุ่มเทศบาลเมืองชะอำชัก 9 มม.ยิงใส่คู่กรณีเจ็บ 2 ทะเลาะเรื่องเตียงผ้าใบ-สปีดโบ๊ต
มติชน
19 สิงหาคม 2563 ( 16:47 )
71
ชะอำเดือด! หนุ่มเทศบาลเมืองชะอำชัก 9 มม.ยิงใส่คู่กรณีเจ็บ 2 ทะเลาะเรื่องเตียงผ้าใบ-สปีดโบ๊ต

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสบริเวณชายหาดชะอำทิศเหนือ ซอย 4 ต.ชะอำ อ.ชะอำ จึงประสาน ร.ต.อ.ทนงศักดิ์ รักสัตย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ชะอำ และ พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.ชะอำ และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.เพชรบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณชายหาดพบมีชาย 2 คนถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.บาดเจ็บทราบชื่อต่อมา คือนายกฤษดา สมุทรรัตน์ อายุ 25 ปี ถูกยิง 2 แห่ง ที่บริเวณท้องและขาด้านขวา และนายจารุกิตติ์ สมานแก้ว อายุ 36 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่ท้อง 3 แห่ง แขน 1 แห่ง และ ขา 1 แห่ง ทั้งนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชะอำ ใกล้เคียงพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวนมาก

 

สืบสวนทราบตัวผู้กระทำผิดชื่อนายธนพล กำไลแก้ว อายุ 32 ปี พนักงานเทศบาลเมืองชะอำ เป็นผู้ใช้อาวุธปืนลงมือกระทำความผิด เบื้องต้นผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายทะเลาะวิวาทชกต่อยกันเรื่องการตั้งเตียงผ้าใบชายหาดและเรือสปีดโบ๊ต ฝ่ายผู้ก่อเหตุจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายทั้งสองรายแล้วหลบหนีไป ส่วนคนเจ็บญาตินำส่งโรงพยาบาลชะอำ

 

ต่อมาเวลา 21.30 น. วันเดียวกัน นายธนพล กำไลแก้ว เดินทางเข้ามอบตัวที่ สภ.ชะอำ พร้อมปืนขนาด 9 มม.กองกลาง

 

สอบถามนายทวี กำไลแก้ว บิดานายธนพล เล่าว่า ตนประกอบอาชีพทำเตียงผ้าใบและให้บริการเรือบานาน่าโบ๊ต ที่ชายหาดชะอำ ก่อนเกิดเหตุตนได้โต้เถียงกับนายกฤษดา และนายจารุกิตติ์ ผู้บาดเจ็บที่ประกอบอาชีพให้บริการเรือบานานาโบ๊ตเช่นกัน เรื่องการแบ่งพื้นที่เชียร์แขกหรือเรียกให้นักท่องเที่ยวมาใช้บริการเรือบานานาโบ๊ตที่ทางเทศบาลเมืองชะอำจัดระเบียบใหม่ จนมีเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมืองชะอำเข้ามาไกล่เกลี่ย และแยกย้ายกันไป แต่ขณะที่ตนกำลังเก็บเตียงผ้าใบนายกฤษดาและนายจารุกิตติ์ได้เข้ามาหาเรื่องอีก โดยชกเข้าที่ใบหน้าตนทำให้นายธนพลที่เห็นเหตุการณ์ได้ใช้อาวุธปืนยิงดังกล่าว

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานายธนพลพยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นนำตัวดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง