รีเซต

บล.กสิกรมองดัชนี 1,440 จุด

บล.กสิกรมองดัชนี 1,440 จุด
TNN ช่อง16
20 มิถุนายน 2563 ( 11:21 )
49
บล.กสิกรมองดัชนี 1,440 จุด

 

บทวิเคราะห์  ระบุว่า แม้เราจะมองว่าตลาดโดยรวมยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น (path-dependent) เกี่ยวกับประเด็นไวรัสโควิด-19 แต่เราได้ปรับเพิ่มเป้าหมาย SET Index ล่วงหน้า 12 เดือนขึ้นเป็น 1,440 จุด หลังจากมีสมมติฐานว่าการพัฒนาวัคซีนจะประสบความสำเร็จในปีนี้ ด้วยความน่าจะเป็น 50% หลังจากการทดสอบในเฟสแรกประสบความสำเร็จไปแล้ว เราก็จะทราบผลการทดสอบในเฟสที่ 2 ของ Moderna ในช่วงครึ่งแรกของเดือน ก.ค. 2563 และรู้ผลการทดสอบในเฟสที่ 3 ช่วงเดือน ก.ย. 2563

 

มูลค่าหุ้นในขณะนี้ไม่ถูกแล้ว ด้วยการซื้อขายที่ PER 21 เท่าต่อกำไรปี 2563 โดยกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยของตลาด (SET EPS) อยู่ที่ราวๆ 66 จุด (ลดลง 35% YTD) สำหรับปี 2563 และ 84 จุด สำหรับปี 2564 ทั้งนี้ ด้วยการที่ Moderna จะรายงานผลการทดสอบวัคซีนในเร็วๆ นี้ เราจึงเล็งเห็น downside risk ในวงแคบต่อ SET Index ในระยะสั้น

 

ที่ผ่านมาเราได้ติดตามจำนวนเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั่วโลก และอิงเกณฑ์เดียวกับที่รัฐบาลญี่ปุ่นใช้ในการบริหารจัดการนโยบายเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 โดยใช้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 7 วันที่ 0.5 เคสต่อประชากร 1 แสนคนเป็นเกณฑ์ ทั้งนี้ จากการที่อเมริกาใต้กำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น (7.9 ล้านเคสทั่วโลก) ด้วยยอดผู้ติดเชื้อสะสมใหม่ที่ 10 เคสต่อประชากร 1 แสนคน

 

ขณะที่ประเทศไทยและกลุ่มประเทศเอเชียหลายๆ แห่ง (จีน ไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรายใหม่ที่ต่ำกว่าในระดับ 1 เคส เราเชื่อว่าระดับที่ปลอดภัยควรต่ำกว่า 0.5 เคสและไม่เกิน 3 เคสต่อประชากร 1 แสนคน จากพัฒนาการดังกล่าวเราจึงมองว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูง และมองว่ายังเร็วเกินไปสำหรับหลายๆ ประเทศที่จะผ่อนปรนมาตรการที่เข้มงวดลง

 

ประเด็นสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

1) หลายๆ ประเทศจะผ่อนปรนการเดินทางภายในประเทศลง

2) กลุ่มประเทศระดับภูมิภาคจะจัดเที่ยวบินระหว่างกัน

3) เที่ยวบินข้ามทวีปจะยังคงห้ามบินไปจนถึงปลายปี 2563 ขณะที่คาดว่าไทย จีน ไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จะเข้าร่วมข้อตกลงกันเพื่ออนุญาตให้แต่ละประเทศในกลุ่มเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกันได้

 

เราเล็งเห็นความเป็นไปได้ระดับสูงที่ประเด็นสหรัฐฯ-จีนจะกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์สามารถควบคุมเหตุการณ์ประท้วงและวิกฤตโควิด-19 ได้ ทั้งนี้ สหรัฐฯ และกลุ่มประเทศอื่นๆ ที่กำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นจะอิงอยู่กับประเด็นความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนเป็นสำคัญ หากไม่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน การกลับมาของความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน จึงกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ

 

 

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง