เปิดสตอรี่ควรรู้!! ลงทุนหุ้น SCC หลังโบรกฯ หั่นเป้า ลดเกรดเหลือถือ
![เปิดสตอรี่ควรรู้!! ลงทุนหุ้น SCC หลังโบรกฯ หั่นเป้า ลดเกรดเหลือถือ](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/08/18/15980f10-e133-11ea-8e82-0b494f6be91c_original.jpg)
#SCC #ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ส่องหุ้น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ลดเกรดคำแนะนำลงเหลือ ถือ จากเดิม ซื้อ เนื่องจากสเปรดปิโตรเคมีลดลงต่ำกว่าจุดคุ้มทุนของอุตสาหกรรม 400 เหรียญ/ตัน จากจีนใช้นโยบาย Zero-Covid ต่อเนื่อง กระทบความต้องการในตลาดโลก และมีซัพพลายใหม่เพิ่มขึ้น 6% ทำให้ปรับประมาณการกำไรปี 2565/66 ลดลง -29%/-31% ตามลำดับ แต่ปี 2566 ฝ่ายวิจัยคาดธุรกิจไม่ใช่ปิโตรเคมีจะหนุนกำไรเติบโตได้ และ ปี 2567 จะเติบโตเด่นชัดมากขึ้นจากซัพพลายใหม่ของ Ethylene เข้ามาน้อยลง 2% จากประมาณการที่ลดลงทำให้ราคาเป้าหมายด้วยวิธี Sum of the part ปี 2566 ลดลงเหลือ 340 บาท จากเดิม 450 บาท
สเปรดปิโตรเคมีทรุดหนักต่ำกว่าจุดคุ้มทุน กดดันกำไร 2H65
นโยบาย Zero-Covid ในจีนที่ยังต่อเนื่อง ซึ่งจีนมีความต้องการประมาณ 1/3 ของโลก กระทบความต้องการปิโตรเคมี บวกกับปีนี้มีซัพพลายใหม่เพิ่มขึ้น 6% ทำให้มีอุปทานส่วนเกิน 6.4 ล้านตัน กดดันสเปรด PE – Naphtha Q3TD ลดลงเหลือ 395 เหรียญ/ตัน (-16%QoQ, -15%YoY) และ PP – Naphtha 366 เหรียญ/ตัน (-21%QoQ, -36%YoY) โดยจุดคุ้มทุนของอุตสาหกรรมประมาณ 400 เหรียญ/ตัน สถานการณ์ดังกล่าว เทียบได้กับไตรมาส Q4/62 และ Q1/63 ที่ประสบสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และ การเริ่มแพร่ระบาดของ Covid-19 ในจีนจนนำมาสู่การล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด สเปรด PE 301-399 เหรียญ/ตัน และสเปรด PP516-555 เหรียญ/ตัน ซึ่งทำให้กำไรปิโตรเคมีลดลงเหลือไตรมาสละ1.8-2.8 พันล้านบาทจาก 3.7-5.9 พันล้านบาท ในไตรมาส Q2/62 และ Q1/62 แต่สถานการณ์ปัจจุบันดูแย่กว่าเพราะสเปรดทั้ง PE และ PP ลงมาต่ำกว่าจุดคุ้มทุน เราคาดปิโตรเคมีจะมีกำไรประมาณ500 ล้านบาทต่อไตรมาส
คาดกำไรครึ่งปีหลังจะลดลงเหลือไตรมาสละ 4-6 พันลบ.
ภายใต้สมมติฐานกำไรธุรกิจปิโตรเคมี ลดลงเหลือไตรมาสละ 500 ล้านบาท ใน Q3/65-Q4/65 ประเมินปูนซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจะมีกำไรไตรมาสละ 1.3-1.5 พันล้าน บรรจุภัณฑ์จะมีกำไรไตรมาสละ 2-2.1 พันล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจาก Kubota ไตรมาสละ 1 พันล้านบาท และ ปันผลจากโตโยต้าจะเข้า Q4/65 ประมาณ 800-1,000 ล้านบาท รวมครึ่งปีหลังจะมีกำไรไตรมาสละประมาณ 4-6 พันล้านบาท เทียบกับครึ่งปีแรกที่มีกำไรไตรมาสละ 8.8-9.9 พันล้านบาท
ปรับประมาณการลดลงกำไรปีนี้จะทรุดลงหนัก
จากการใช้นโยบาย Zero-Covid ในจีนที่ยาวนานกว่าคาด กดดันสเปรด PE และPP ต่ำกว่าจุดคุ้มทุน ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรปี 2565/66 ลดลง -29%/-31% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการปรับลดกำไรของธุรกิจปิโตรเคมีลง คาดกำไรปี 2565 เท่ากับ 28,520 ล้านบาท ลดลง 40% ส่วนปี 2565 คาดจะฟื้นตัวดีขึ้น 11% สู่ระดับ 31,652 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจที่ไม่ใช่ปิโตรเคมี