รีเซต

ฝนตกหนัก! น้ำท่วมใต้ ยังประสบภัย 8 จังหวัด กระทบ 124,003 ครัวเรือน

ฝนตกหนัก! น้ำท่วมใต้ ยังประสบภัย 8 จังหวัด กระทบ 124,003 ครัวเรือน
TNN ช่อง16
21 พฤศจิกายน 2568 ( 15:08 )

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและทำให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ 

ยังมีสถานการณ์อุทกภัย 8 จังหวัด

โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.) มีสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล และสงขลา กินพื้นที่ 48 อำเภอ 214 ตำบล 1,295 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 124,003 ครัวเรือน 359,428 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ภาคใต้เร่งส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนจังหวัดในการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเมื่อวานนี้ (20 พ.ย. 68) ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย รวม 11 รายการ กระจายกำลังปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.ปัตตานี

สำหรับ จ.สงขลา ที่มีฝนตกแช่ต่อเนื่องในพื้นที่และระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นศูนย์ ปภ. เขต 12 สงขลา ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดท่อส่ง 12 นิ้ว และขนาดท่อส่ง 14 นิ้ว จำนวน 7 เครื่อง ในพื้นที่ 7 จุด ได้แก่ 

1) ชุมชนแหล่งพระราม ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา 

2) ชุมชนท่าเรือประมงเก่า ต.บ่อยาง อ.เมืองขลา 

3) สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา 

4) หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา 

5) ตำบลทุ่งหวัง อ.เมืองสงขลา 

6) เทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา 

7) เทศบาลตำบลกำแพงเพชร อ.รัตภูมิ  

ในส่วนของ จ.ปัตตานี ที่มีฝนตกหนักมากในพื้นที่ ศูนย์ ปภ. เขต 12 สงขลา ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดท่อส่ง 14 นิ้ว และขนาดท่อส่ง 16 นิ้ว จำนวน 4 เครื่อง ในพื้นที่ 3 จุด ได้แก่ 1) หน้าร้านไทปัน ทม.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี 2) เชิงสะพานเดชานุชิต ทม.ปัตตานี อ.เมืองปัตตานี และ 3) หน้าวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี ทม.ปัตตานี อ.เมืองปัตตานี

ที่ผ่านมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างเป็นระบบ และการสนับสนุนทรัพยากรจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยใกล้เคียงหรือศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ไม่มีสถานการณ์ภัยเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบภัย ทำให้การจัดสรรทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว 

โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ย. 68 เวลา 21.00 น.) มีการกระจายกำลังเครื่องจักรกลสาธารณภัยรวม 338 รายการ เจ้าหน้าที่รวม 159 คน จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 แห่ง ปฏิบัติงานช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม และอุบลราชธานี กินพื้นที่ 53 อำเภอ 444 ตำบล 2,882 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 134,210 ครัวเรือน 467,377 คน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะยังคงติดตามสถานการณ์และสนับสนุนทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง