เจาะพอร์ตหุ้นคลัง 13 บริษัท มูลค่าการถือครอง 8.8 แสนล้านบาท มีบริษัทไหนบ้างเช็กเลย

คลังอู้ฟู่ ! เปิดตัวเลขโชว์จัดเก็บรายได้ครึ่งแรกของปีงบประมาณ 68 (ต.ค.67 – มี.ค.68) ประมาณ 1.19 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1,807 ล้านบาท หรือ 0.2% หรือ เพิ่มขึ้น 26,503 ล้านบาท สัดส่วน 2.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ล่าสุดมีแผนที่จะฏิรูปการจัดเก็บภาษีครั้งใหญ่ ครอบคลุมทั้งภาษีสรรพากร ภาษีสรรพสามิต ตลอดอากรนำเข้าศุลกากร โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจัดเก็บรายได้ต่อจีดีพีให้เพิ่มสูงขึ้น
จากปัจจุบันการจัดเก็บรายได้รัฐอยู่ที่ 12-13% ของจีดี เพิ่มเป็น 18% ของจีดีพี โดยคาดหวังในแผนการปฏิรูปภาษีหากสามารถเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 5% จะทำให้คลังมีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นได้อีก 800,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ลดปัญหาการขาดดุลงบประมาณ และทำให้สามารถจัดทำงบประมาณสมดุลได้เร็วขึ้น
ซึ่งนอกจากการหารายได้จาการจัดเก็บภาษีแล้ว รู้หรือไม่ว่า กระทรวงการคลังยังมีรายได้จากการเข้าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยวันนี้ TNN ONLINE จะพาไปส่องพอร์ตหุ้นกระทรวงการคลังว่ามีการลงทุนหุ้นตัวไหนบ้างรับเงินปันผลเท่าไหร่ในปี 67
จากสำรวจข้อมูลการลงทุนของกระทรวงการคลัง ผ่าน setsmart พบว่า กระทรวงการคลังติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ 13 บริษัท โดยมีมูลค่าการถือครองหุ้นทั้งหมด 880,686 แสนล้านบาท ซึ่งในปี 67 รับเงินปันผลประมาณ 39,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% จากปี 66 ที่รับเงินปันผล 34,731 ล้านบาท ซึ่งมีการลงทุนในบริษัทใดบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย
1. AOT บมจ. ท่าอากาศยานไทย กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 10,000,000,000 หุ้น สัดส่วน 70% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 557,142 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่ 2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 853,570 ล้านบาท ลดลง 296,429 ล้านบาท ซึ่งราคาหุ้น ต้นปีถึงปัจจุบันลดลง 34.69 % โดยรอบผลประกอบการ 1 ต.ค. 66 - 30 ก.ย. 67 AOT ประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.79บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผลประมาณ 7,900 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.36 บาท ได้รับปันผล 3,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.4%
2. BCP บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 65,543,767 หุ้น สัดส่วน 4.76% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 53,011.54 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่ 2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 48,192.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,819.23 ล้านบาท ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 10 % โดยปี 67 จ่ายปันผลหุ้นละ 1.05 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 68.82ล้านบาท เมื่อเทียบปี 66 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2 บาท ได้รับเงินปันผล 131.08 ล้านบาท ลดลง 47.5%
3. BEYOND บมจ.เบาด์ แอนด์ บียอนด์ กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 31,200,000 หุ้น สัดส่วน 10.76% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 2,102.99 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่ 2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 2,436.36 ล้านบาท ลดลง 334.57 ล้านบาท ราคาหุ้นต้นปีถึงปัจจุบันลดลง 13.69% โดยปี 67 และปี 66 งดจ่ายเงินปันผล
4. DMT บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 261,350,000 หุ้น สัดส่วน 22.13% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 11,812 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่ 2ม.ค. 68 อยู่ที่ 12,753 ล้านบาท ลดลง 945 ล้านบาท ราคาหุ้นต้นปีถึงปัจจุบันลดลง 7.41 % โดยปี 67จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.83 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 216 ล้านบาท โดยปี 66 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1.2 บาท คลังรับเงินปันผล 313.62 ล้านบาท ลดลง 31.14%
5. MCOT บมจ. อสมท กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 452,134,022 หุ้น สัดส่วน 65.80% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 3,091.94 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่ 2ม.ค. 68 อยู่ที่ 3,985.17 ล้านบาท ลดลง 893.23 ล้านบาท โดยปี 66-67 งดจ่ายเงินปันผล
6. MFC บลจ. เอ็มเอฟซี กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 20,000,000 หุ้น สัดส่วน 15.92% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 3,423.02 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 3,423.02 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง โดยปี 2567 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1.05 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 21 ล้านบาท ปี 66 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1.3 บาท คลังรับเงินปันผล 26 ล้านบาท ลดลง 19.23%
7. NEP บมจ. เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 295,847,860 หุ้น สัดส่วน 12.72% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 511.58 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่ 2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 488.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.26 ล้านบาท โดยปี 66-67 งดจ่ายเงินปันผล
8. OR บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 153,349,808 หุ้น สัดส่วน 1.28% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 171,600 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่ 2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 156,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,600 ล้านบาท ราคาหุ้นต้นปีถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้น 10% โดยปี 67 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.40 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 61.33 ล้านบาท ปี 66 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.52 บาท คลังรับเงินปันผล 79.74 ล้านบาท ลดลง 23.1%
9. PTT บมจ. ปตท. กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 14,598,855,750 หุ้น สัดส่วน 51.11% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 887,053.08 ล้านบาทณ วันที่ 10 พ.ค.67 ขณะที่ 2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 901,245.93 ล้านบาท ลดลง 14,192.85 ล้านบาท ราคาหุ้นต้นปีจนถึงปัจจุบันลดลง 1.57 % โดยปี 67 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2.10 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 30,657 ล้านบาท โดยปี 2566 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2 บาท คลังรับเงินปันผล 29,197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%
10. RPH บมจ.โรงพยาบาลราชพฤกษ์ กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 14,700,000 หุ้น สัดส่วน 2.69% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 2,794.62 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่ 2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 3,007.55 ล้านบาท ลดลง 213.55 ล้านบาท ราคาหุ้นต้นปีถึงปัจจุบันลดลง 7.08% โดยปี 67 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.29 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 4.26 ล้านบาท โดยปี 66 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.19 บาท คลังรับเงินปันผล 2.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.63%
11.TFFIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 457,000,000 หุ้น สัดส่วน 10% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 27,191.50ล้านบาท ณ วันที่10 พ.ค.68 ขณะที่ 2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 29,019.50 ล้านบาท ลดลง 1,828 ล้านบาท โดยปี 67 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.4582 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 209.39 ล้านบาท โดยปี 66 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.41 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 187.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.75%
12.TTB ธนาคารทหารไทยธนชาต กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 11,364,282,005 หุ้น สัดส่วน 11.68% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 182,213.31 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พ.ค.68 ขณะที่ 2 ม.ค. 68 อยู่ที่ 178,356.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,856.37 ล้านบาท ราคาหุ้นต้นปีถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้น 2.16% โดยปี 67 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.130 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 1,477.35 ล้านบาท โดยปี 66 จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.105 บาท ส่งผลให้กระทรวงการคลังรับเงินปันผล 1,193.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.81%
13. THAII บมจ. การบินไทย กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 11,010,143,112 หุ้น สัดส่วน 38.90% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการและ ระงับการซื้อขาย