รีเซต

ส่องอนาคต "BRI" พร้อมเสิร์ฟกลยุทธ์ลงทุน

ส่องอนาคต "BRI" พร้อมเสิร์ฟกลยุทธ์ลงทุน
ทันหุ้น
29 พฤษภาคม 2566 ( 15:42 )
91

บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ส่องหุ้น BRI มุ่งสู่การขยายธุรกิจตามแผน รายงานกำไรปกติ Q1/66 อยู่ที่ 328 ลบ. (+4% q-q, +58% y-y) คาดยอดขายและกำไรจะทยอยขยับขึ้น q-q ตั้งแต่ Q2/66 และสูงสุดใน Q4/66 ตามโครงการเปิดตัวใหม่ คงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 14 บาท Valuation ระดับที่ไม่แพง บวกกับการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วคาดจะช่วยผลักดันการเติบโตในระยะกลางถึงยาว

 

ผลประกอบการ Q1/66 ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยคาด BRI รายงานกำไรสุทธิ Q1/66 ที่ 329 ลบ. (-20% q-q, -7% y-y) หากหักรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 328 ลบ. (+4% q-q, +58% y-y) จากรายได้บริหารโครงการ JV ที่สูงขึ้นเป็น 358 ลบ. (+55% q-q, +422% y-y) จาก 8 โครงการ JV ใหม่ที่ลงทุนร่วมกับกับเจ้าของที่ดิน มูลค่าโครงการรวม 7 พันลบ. อย่างไรก็ดี ยอดโอนลดลงเป็น 1.1 พันลบ. (-22% q-q, -13% y-y) จากฐานที่สูงใน Q4/65 และการพัฒนาโครงการ JV ที่เพิ่ม ขึ้นตั้งแต่ Q1/65 รวมถึงมีการเปิดตัวใหม่เพียง 1 โครงการในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอสังหาริมทรัพย์ และสัดส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายทรงตัวที่ 32.8% และ 11.9% ตามลำดับ

 

สร้างการเติบโตมากขึ้นผ่าน JV ร่วมกับพันธมิตร นอกจากโครงการของบริษัทฯ แล้ว ผู้บริหารยังกล่าวว่า BRI มีแผนร่วมทุน JV เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างน้อย 2-3 โครงการใหม่/ไตรมาส โดยรูปแบบของ JV จะช่วยให้ธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วและใช้เงินทุนน้อยลง โดยบริษัทฯ เริ่มร่วมทนุ กับนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ปี 2565 ก่อนจะเริ่มจับมือกับเจ้าของที่ดิน 6 แห่งใน Q1/66 ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพและจังหวัดใหม่ๆ เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น  อุดรธานีและชลบุรี จุดเด่นของรูปแบบดังกล่าวอยู่ที่ทำเลอันมีศักยภาพสูงพร้อมต้นทุ้นการซื้อที่ดินที่ลดลงและความเชี่ยวชาญในท้องถิ่น 

 

ขณะที่บริษัทฯ จะได้รับรายได้บริหารโครงการ และกำไรพิเศษจากการลงทุนหากร่วมทุนกับนักลงทุน ในส่วนของนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ บริษัทฯ คาดว่าผลกระทบจะไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากถูกบรรเทาด้วยการขึ้นราคาและการควบคุมต้นทุน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังพัฒนาโครงการส่วนใหญ่ โดยใช้การก่อสร้างแบบ Precast ซึ่งใช้แรงงานน้อยกว่าและระยะเวลาก่อสร้างสั้น

 

คาดหวังโมเมนตัมเชิงบวก q-q ต่อเนื่องช่วงที่เหลือของปี ในช่วง Q2TD ยอดขายโครงการอยู่ที่ 2 พันลบ. เนื่องจาก BRI ยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ จะเปิดตัว 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3.8 พันลบ.ในเดือนมิ.ย. (เทียบกับ 1.2 พันลบ.ใน Q1/66) ขณะที่แผนการเปิดโครงการใหม่ส่วนที่เหลือจะมีมูลค่า 4.3 พันลบ. และ 13.2 พันลบ.ใน Q3-Q4/66 ตามลำดับ ปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยผลักดันโมเมนตัมยอดขายโครงการเร่งขึ้นตั้งแต่ Q2/66 และดีสุดใน Q4/66 เบื้องต้นฝ่ายวิจัยประเมินว่ากำไรปกติ Q2/66 จะทยอยปรับตัวขึ้น q-q และ y-y หลักๆ มาจากการรับรู้ Backlog ณ สิ้น Q1/66 ที่ 1.4 พันลบ. อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิมีโอกาสลดลง y-y เทียบกับ Q2/65 ที่มีกำไรพิเศษ แต่ยังเติบโต q-q

 

คงแนะนำซื้อ จากศักยภาพการเติบโต Valuation อยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าตลาดแนวราบในปีนี้มีทิศทางอ่อนตัวลงจากฐานที่สูงในปี 2565 และความไม่แน่นอนทางการเมือง อย่างไรก็ดี กำไรปกติของ BRI คาดจะโต 41% y-y ในปี 2566 จากกลยุทธ์การขยายธุรกิจและการร่วมจับมือกับพันธมิตร หุ้นซื้อขายบน P/E 2566 ที่ 5.8x ต่ำกว่ากลุ่มอสังหาฯ ที่ 7.7x พร้อมผลตอบแทนเงินปันผล 7.2%

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง