JMARTงบประจักษ์ Q4เด่นสู่นิวไฮปีหน้า
#JMART #ทันหุ้น - บิ๊ก JMART เปิดใจอนาคตธุรกิจดีขึ้นต่อเนื่อง ลั่นผลงานไตรมาส 3 พิสูจน์แล้ว กลับมากำไร 293 ล้านบาท ประกาศผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว เคลียร์ปัญหา SINGER และ SDC เรียบร้อย มั่นใจไตรมาส 4 ดีต่อทั้ง องคาพยบ วางแผนสู่คอมเมิร์ซเทค และฟินเทค ปูทางขึ้นนิวไฮปีหน้า การเงินแกร่ง IBD/E เพียง 0.72 เท่า
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า สถานการณ์ของบริษัทดีขึ้นอย่างมาก หลังจากเคลียร์ปัญหา บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER และ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC จบแล้วในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับมีผลบวกจาก ส่งผลให้ผลประกอบการของ JMART ไตรมาส 3 พลิกกลับมามีกำไรอยู่ที่ 293 ล้านบาท หลังจากไตรมาส 2/2566 มีผลขาดทุน 611 ล้านบาท
เชื่อว่าผลงานจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 4/2566 และปีหน้า รวมทั้งผลบวกที่ค่อนข้างชัดเจนจาก JAS ASSET (J) มีกำไรที่โดดเด่น และการลงทุนที่คุ้มค่าจากสุกี้ตี๋น้อย (TEENOI) ที่สามารถสร้างผลกำไรให้ JMART มากขึ้นๆ และยังมีการขยายทุกเดือน ในงวดไตรมาส 3/2566 สุกี้ตี๋น้อยมีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 676 ล้านบาท มีสาขาจำนวน 50 สาขา คาดสิ้นปีไฮซีซัน และมีการเปิดสาขาเพิ่มเป็น 55 สาขา เตรียมเปิดที่โคราช 2 สาขา พัทยาเหนือ 1 สาขา และ สมุทรปราการ 2 สาขา โดยเน้นออกต่างจังหวัดมากขึ้น รวมถึงการ Synergy ที่ทำอยู่ เริ่มเก็บเกี่ยวผลงานอย่างดี
"เราใช้เวลาพิสูจน์มาแล้วตั้งแต่เริ่มไตรมาส 3/2566 ผลประกอบการของ SINGER และ SGC ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และเชื่อว่า จะกลับขึ้นมาสร้างผลประกอบการที่ดีขึ้นตามระยะเวลาจากนี้ไป กำไรกลับมาเป็นบวก แม้ในไตรมาสนี้ยังบวกไม่มาก แต่ส่งสัญญาณว่าเราจัดการภายในและเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจให้ชัดเจนขึ้น ปัญหาก็ได้แก้ไขไปหมดแล้ว ขณะเดียวกันในภาพรวม เราก็ยังเชื่อว่าในไตรมาสที่ 4/2566JMT - JAS ASSET (J) – SINGER - SGC – TEENOI - JAYMART MOBILE ยังส่งผลกำไรในเชิงบวก มองไตรมาส 4/2566 ดีกว่าไตรมาส 3/2566"
@ ก้าวสู่นิวไฮปี 2567
โดยโครงสร้างของกลุ่มเน้นเรื่องคอมเมิร์ซ และไฟแนนซ์ ซึ่งการจะโตได้ต้องมีเทคโนโลยี ดังนั้นกลุ่มบริษัทจึงวางแผนไปสู่คอมเมิร์ซเทค และฟินเทค อยากให้ติดตาม ทั้งในการทำ CRM ผูกกับลูกค้า หรือใช้เทคโนโลยีผูกกับ J POINT ตอนนี้มีพาร์ตเนอร์จำนวนมาก และกำลังเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยได้ทาง J Ventures มาสร้างพื้นฐาน มีพอยต์ในรูปแบบดิจิทัล ทำให้สนุกกับการบริการลูกค้า เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้า
"ผมเชื่อว่า สิ่งที่เราทำมาหลายปีในเรื่อง JPOINT และ J Wallet ทำให้เรามี Marketing Tools ที่แข็งแกร่งในอนาคต และสนับสนุนให้กลุ่มบริษัทเจมาร์ทมีผลกำไรในเชิงบวก และน่าจะทำ New High ได้ในปี 2567 ภายใต้ SINGER SGC ที่เป็นบวก และสร้างฐานการเดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแรง ให้สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดเป็นเครื่องพิสูจน์ และส่งผลบวกมาที่เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ นอกจากนี้ ปัจจุบันเรามีความแข็งแกร่งทางการเงิน มี IBD/E เพียง 0.72 เท่า"
@อนาคตเติบโตทั้งกลุ่ม
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT กล่าวมั่นใจว่า โค้งสุดท้ายของปีเป็นช่วงไฮซีซันของการซื้อหนี้เข้ามาบริหาร ปัจจุบัน อยู่ระหว่างประมูลซื้อหนี้ด้อยคุณภาพกับสถาบันการเงิน โดยเป็นอีกปีที่ JMT ซื้อหนี้เข้ามามากที่สุด ทำ All Time High ส่งผลบวกต่อบริษัทในปีนี้ และปี 2567 อย่างไรก็ดี ยอดการจัดเก็บ (Cash Collection) ลดลง จากสภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 3/2566 และเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นแล้วในเดือนกันยายน โดยตั้งเป้าหมายกลับคืนฟอร์มในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ โดยไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรสุทธิ 466.3 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 2.4%
ด้านนายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผย การที่บริษัทกลับมาสร้างผลกำไรสุทธิที่ 13 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/2566 ที่ 2,396 ล้านบาท เป็นการสร้างความมั่นใจ บริษัทไม่มีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ และผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/2566 พร้อมเดินหน้าสร้างฐานการเติบโตครั้งใหม่ และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบริหารได้ 40% ดีกว่าคาด
ส่วน นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ยืนยัน บริษัทได้มุ่งเน้นการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องและมีการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างระมัดระวังเพื่อรองรับคุณภาพของสินเชื่อภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวเฉพาะส่วนเพื่อสร้างฐานการเติบโตอย่างมีคุณภาพ แม้ NPL ยังอยู่ในระดับสูง แต่หากมาดูพอร์ตสินเชื่อใหม่ก็ทำได้ดีมี NPL อยู่ที่ 3-5% จากการควบคุมคุณภาพสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจเราสร้างฐานการติบโตครั้งใหม่ มุ่งสู่ปี 2567 กลับมาคืนฟอร์ม
นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยว่า ไตรมาส 3/2566 มีผลกำไรสุทธิ 129.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 617.2% เนื่องจากบริษัทฯ มีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนและรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นจากการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ JAS Green Village บางบัวทอง ขณะที่ภาพรวมรายได้รวมมีการเติบโตที่ดี มีสาเหตุหลักจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ JAS Green Village คู้บอน และ JAS Urban ศรีนครินทร์ เป็นหลัก รวมถึงรายได้ค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ไฟฟ้าและการปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าให้สอดคล้องกับต้นทุนค่าไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มขึ้นของรายได้ในโครงการ Senera Senior Wellness จากการส่งมอบพื้นที่ให้ Senera ViMUT Health Service ส่วนทิศทางปี 67 ไฟเขียวลุยพัฒนาโปรเจกต์ JAS Green Village 3 แห่งที่ รามคำแหง - ประเวศ และขอนแก่น หนุนภาพรวมรายได้จากการเช่าเติบโต ขณะที่ โครงการ Senera Senior Wellness เข้ามาเสริมทัพ หนุนผลงานโตไม่หยุด