รีเซต

ผู้ว่าฯภูเก็ตลงนามคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยง ผับ บาร์ สถานศึกษาฯ ตั้งแต่ 17-31 ส.ค.นี้

ผู้ว่าฯภูเก็ตลงนามคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยง ผับ บาร์ สถานศึกษาฯ ตั้งแต่ 17-31 ส.ค.นี้
มติชน
15 สิงหาคม 2564 ( 08:29 )
82
ผู้ว่าฯภูเก็ตลงนามคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยง ผับ บาร์ สถานศึกษาฯ ตั้งแต่ 17-31 ส.ค.นี้

 

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.64 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019ได้ขยายขอบเขตออกเป็นวงกว้าง ในลักษณะเป็นกลุ่มก้อนในหลายพื้นที่ และพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้น

 

 

จังหวัดภูเก็ตจึงจำเป็นต้องกำหนด มาตรการ เพื่อเร่งแก้ไขและระงับยับยั้งสถานการณ์ให้คลี่คลายลงโดยเร็ว โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 48/2564เมื่อวันที่14 สิงหาคม 2564 จึงลงนามคำสั่งที่ 4626/2564 ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2564 เรื่อง มาตรการปิดสถานที่หรือห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค

 

 

สาระสำคัญ ดังนี้

1. มาตรการปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค

 

สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ทุกแห่งในท้องที่จังหวัดภูเก็ต สนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามแข่งนก สนามแข่งไก่ สนามมวย หรือสถานที่จัดให้มีการเล่นการพนัน รวมถึง สนามฝึกซ้อมหรือกิจกรรมอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกัน

 

 

สถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด หรือโต๊ะพูล ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ โรงเรียนสอนมวย และโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ทุกประเภท (วูชู คาราเต้ เทควันโด มวยไทย มวยสากล ยูโด ไอกิโด เป็นต้น) สระว่ายน้ำที่เปิดให้บริการประชาชนเป็นการทั่วไปทั้งในส่วนของราชการ และผู้ประกอบการเอกชน

 

 

สถานศึกษาในระบบทุกแห่งทุกสังกัดในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งอยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน มหาวิทยาลัย และสถาบันกวดวิชา ทุกแห่ง งดการจัดการเรียนการสอนและงดการจัดกิจกรรมใด ๆ ที่ต้องมีการรวมกลุ่มของนักเรียนนักศึกษา ยกเว้น โรงเรียนเอกชนนอกระบบที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในชั้นเรียนไม่เกิน 5 คน โดยให้สถานศึกษา มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาจัดการเรียนการสอนด้วยการไม่ต้องเข้าชั้นเรียนตามรูปแบบที่ตันสังกัดกำหนดหรือรูปแบบที่เหมาะสมตามที่กำหนด โดยปรับการเรียนการสอนเป็นระบบออนไลน์

 

 

2. การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลซึ่งมีจำนวนรวมกันมากกว่า 50 คนแต่ เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถา
ห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรม สังสรรค์ ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่
สาธารณะ ชายหาด สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น ถนนริมคลอง ถนนรอบอ่างเก็บน้ำ ขุมน้ำสาธารณะ

 

 

3. มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะ
คล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ ยกเว้น ส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก ให้งดบริการ

 

 

ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ตามปกติโดยงดการจำหน่าย และงดดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภายในร้าน ตลาดสด ตลาดนัด ถนนคนเดิน ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามที่ทางราชการกำหนด และจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการตามขนาดของพื้นที่ 1คน ต่อ 4 ตารางเมตร
ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้ตามปกติตั้งแต่เวลา 04.00 นาฬิกา ถึงเวลา 23.00นาฬิกา

 

 

สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายกลางแจ้ง สวนสาธารณะ ลาน พื้นที่กิจกรรมสาธารณะโล่งแจ้งและกีฬาในร่ม สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา แต่ห้ามเล่นกีฬาที่มีการปะทะกันและต้องไม่มีผู้ชมหรือชุมนุมกัน

 

 

สถานที่หรือสนามออกกำลังกายในร่ม โรงยิม ฟิตเนส โยคะ แอโรบิก คลาสออกกำลังกายแบดมินตัน สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามขนาดของพื้นที่และผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคชีนครบโดส และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่ทางราชการกำหนด รวมถึงมาตรการ D-M-H-T-T-A

 

 

4.การจัดกิจกรรมทางสังคม ให้งดการจัดงานสังสรรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง งานวันเกิด งานขึ้นบ้านใหม่ เลี้ยงรับ – ส่ง
และเลี้ยงฉลองแสดงความยินดีในโอกาสต่าง ๆ กรณีการจัดพิธีการตามประเพณีนิยมหากไม่สามารถเลื่อนได้ เช่น งานพิธีการศพ งานอุปสมบท งานมงคลสมรส วันสำคัญทางศาสนาหรืองานบุญ ให้สามารถดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ

 

 

5. มาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณาขยายการดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง เพื่อลดจำนวนการเดินทางของเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่อยู่ในความรับผิดชอบเป็นระยะเวลาตามความจำเป็นเหมาะสม เพื่อป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งนี้ การปฏิบัติงานดังกล่าวให้เพียงพอต่อภารกิจให้บริการประชาชน ห้ามมิให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารและพนักงานส่วนท้องถิ่นพนักงานราชการ ลูกจ้างส่วนราชการ เดินทางออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยกเว้น มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และต้องได้รับอนุญาตตามแบบที่กำหนดแนบท้ายคำสั่งนี้

 

 

6.การถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ซึ่งเมื่อรวมคนทำงานหน้าฉากและทุกแผนกแล้ว ต้องมีจำนวนไม่เกิน 50 คน และต้องไม่มีผู้ชมเข้าร่วมรายการ การยกเว้นไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในบางกรณีหรือบางช่วงเวลาของการถ่ายทำต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ตามที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค.

 

 

7. มาตรการตรวจสอบเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงงาน สถานที่พักของแรงงานต่างด้าว หรือสถานที่อื่น ๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบรวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

 

 

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง