BDMS ตั้งเป้ารายได้โต 6-8% โบรกชอบหุ้นเด่นกลุ่มรพ.

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS มีการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 6-8% โบรกเกอร์ยังมีมุมมองหุ้น BDMS เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโรงพยาบาล ให้ราคาเหมาะสม 33.80-36.00 บาท
บล.ดาโอ มองว่าผลการดำเนินงานในปี 66 จะเติบโตต่อเนื่องตามคาด จากคนไข้ต่างซาติ และสปสช. โดยยังคงแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเหมาะสม 36.00บาท อิง PER ปี 66 ที่ 44 เท่า โดยมีมุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 15 พ.ค. เนื่องจากเป้าหมายการเติบโตดี และใกล้เคียงที่เราคาด โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 66 ที่ 6-8% YOY (เราคาด 10% YoY) และคาด EBITDA margin อยู่ที่ 24% (เราคาด 23.5%)
การเติบโตมาจากคนไข้ต่างชาติ จาก pent-up demand และขยายตลาดใหม่ โดยในเดือนก.พ. มีคนไข้ fly-in รอเข้าการรักษาราว 15,000 คน ส่วนคนไข้ไทยจะเน้นไปยังกลุ่มผู้ป่วยสูงวัย และประกันสังคม ซึ่งจะทำให้อัตราการครองเตียงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ BDMSมีแผนขยายรพ.ในอนาคต ในการเพิ่มเตียงเพื่อสามารถรองรับคนไข้ประกันสังคมได้มากขึ้น
บล.ดาโอยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 66 ที่ 13,232ล้านบาท (+5% YoY) จากฐานที่สูง จากการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศเพิ่มจากประเทศบังกลาเทศ และซาอุฯ ส่วนลูกค้าในประเทศมาจากการขยายตลาดประกันสังคม และผู้สูงอายุ ทั้งนี้ กำไรสุทธิไตรมาส 1/66 คิดเป็นสัดส่วนที่ 26% ของประมาณการ โดยมองว่ากำไรในไตรมาส 2/66 จะยังคงเติบโต YoY, QoQ จากจำนวนผู้ใช้บริการของต่างชาติเพิ่มขึ้น
ราคาหุ้น outperform SET +12%ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จากอานิสงส์การเปิดประเทศ และเรายังคงมองว่าบริษัทจะเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลประโยชน์จาก medical tourism อย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนของชาวต่างชาติอยู่ที่ 29% ซึ่งกำลังกลับเข้าสู่ระดับช่วงก่อนโควิดที่ 30%ในปัจจุบันมีผู้ป่วยต่างชาติที่สนใจมารักษาอยู่เป็นจำนวนมาก ในด้านของ valuation เรามองว่าน่าสนใจ เนื่องจากรายได้ organic เติบโตดีมากกว่าช่วงก่อนโควิดแม้จะมีการเติบโตของกำไรไม่สูงมากหนัก จากฐานที่สูง ปัจจุบัน BDMS เทรดอยู่ที่ 35.7x (-1.25SD below average 5-yr PER)
บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มองว่ากำไรของ BDMS จะเติบโต YoY ซัดเจนในครึ่งหลังของปีนี้ ผู้บริหารคงเป้ารายได้ปีนี้โต 6-8% YoY ขณะเป้า EBITDA Margin ปีนี้ 24% เท่าปีก่อน มีแผนรองรับผู้ป่วยต่างชาติและผู้ป่วยไทยทั้งในระยะสั้นและยาว รวมถึงรองรับผู้ป่วยกลุ่มเป้าหมายใหม่
คาดจะเห็นกำไรกลับเติบโต YoY ชัดเจน ในครึ่งปีหลัง 66 จากผู้ป่วยต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และฐานผู้ป่วยโควิดช่วงเดียวกันของปีก่อนเหลือไม่มากแล้ว มูลค่าพื้นฐานปี 66 อยู่ที่ 35 บาท มี Upside 18.6% คงคำแนะนำ ซื้อ" และเลือกเป็น Top pick กลุ่ม
ในไตรมาส 3/66จะได้รับผลบวกจากช่วงวันหยุดภาคฤดูร้อนของตะวันออกกลาง ที่นิยมเดินมารักษาพร้อมกับพาครอบครัวมาเที่ยว ซึ่งถือเป็นช่วงพีคของชาวตะวันออกกลาง และปีนี้ชาวซาอุฯจะเดินทางมามากขึ้นเป็นพิเศษหลังจาก BDMS เปิดสำนักงานตัวแทนที่ซาอุฯ ต้นปีนี้ และถือเป็นรพ.ไทยแห่งแรกที่เปิดสำนักงานตัวแทนในซาอุฯ
นอกจากนี้ทางภาคใต้ของไทย ยังเป็นที่นิยมของลูกค้าต่างชาติทั้ง Expat และ Fly-in โดยเฉพาะชาวรัสเซีย เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งศส และ ออสเตรเลีย ซึ่งคาดผู้ป่วยต่างชาติจะดีต่อเนื่องในงวดไตรมาส 4/66 ซึ่งถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย จึงเชื่อว่า BDMS สามารถบรลุเป้ารายได้ที่บริษัทตั้งไว้ได้ บวกกับ GPM ที่ดีขึ้นมากจากผู้ป่วยต่างชาติมารับการรักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงเป็นส่วนใหญ่ ชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบของเงินเฟ้อ EBITDA Margin จึงมีโอกาสมากกว่า 24%ที่ BDMS ตั้งเป้าไว้ ส่งผลให้คาดว่ากำไร 66-67จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 10%
ปัจจัยเสี่ยง BDMS มีฐานลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติที่ fly-in มารับการรักษาคิดเป็นสัดส่วนถึง 15%ของรายได้ทั้งหมด หากเกิดการปิดกั้นการเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้ง จะมีผลกระทบต่อรายได้และกำไรของ BDMS อย่างมีนัยสำคัญ
บล.กรุงศรีพัฒนสิน มีมุมมอง Slightly positive ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ที่ 3,470 ลบ. (+1%y-y +11%q-q) เติบโตดีกว่าเราและตลาดคาด +9% / +6% ตามลำดับโดยกำไรสุทธิเติบโตดีกว่าเราคาดเนื่องจาก 1)ต้นทุนและค่าใช้จ่าย SG&A น้อยกว่าคาด ทำให้มี %Gross margin และ EBITDA margin ที่ 34.5% / 20.6% ดีกว่าคาด และ 2) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมดีกว่า
แนวโน้มปี 66 คาดกำไรสุทธิเติบโตเล็กน้อย y-y แต่ลดลง q-q ตามทิศทางรายได้และคาด %Gross margin ใกล้เคียงปี 65 แต่ลดลง q-q จากปัจจัยฤดูกาล และผลกระทบเทศกาลรอมฎอนเต็มเดือน เม.ย.23 โดยเรายังเลือก BDMS เป็นหุ้นเด่นกลุ่มฯ จากความได้เปรียบด้าน Capacity และการให้บริการด้านสุขภาพครบวงจร รองรับการเติบโตต่อเนื่องในช่วง Post COVID คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BDMS ราคาเหมาะสมปี 66 ที่ 33.80 บาท
ยอดนิยมในตอนนี้
