SharpLink ผงาด! ขึ้นแท่นบริษัทเอกชนถือ Ethereum มากสุดในโลก ทะลุ 353,000 ETH

SharpLink ผงาด! ขึ้นแท่นบริษัทเอกชนถือ Ethereum มากสุดในโลก ทะลุ 353,000 ETH

SharpLink Gaming บริษัทเทคโนโลยีที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq ภายใต้ชื่อย่อ SBET ยังคงเดินหน้าสะสม Ethereum อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บริษัทได้ซื้อเพิ่มอีก 32,892 ETH ส่งผลให้ยอดถือครองรวมทะลุ 353,000 ETH กลายเป็นบริษัทเอกชนที่ถือ Ethereum มากที่สุด แซงหน้า Ethereum Foundation ไปเป็นที่เรียบร้อย

ข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Arkham Intelligence ระบุว่า SharpLink ได้รับ ETH จำนวน 18,712 เหรียญจาก Galaxy Digital ในช่วงค่ำของวันพฤหัสฯ ตามด้วยอีก 14,180 เหรียญจาก Coinbase Prime ภายในวันเดียวกัน

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Lookonchain ยังเผยว่าในช่วง 9 วันที่ผ่านมา SharpLink ได้สะสม ETH ไปกว่า 144,501 เหรียญ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นระยะยาวใน Ethereum อย่างเด่นชัด

อัปเดตกลยุทธ์การเงินเพื่อหนุนการซื้อ ETH เพิ่ม

หลังจากกลายเป็นผู้ถือ ETH อันดับหนึ่ง SharpLink ยังได้อัปเดตเอกสารกับสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) เพื่อเพิ่มวงเงินการออกหุ้นสำหรับระดมทุน จากเดิม 1 พันล้านดอลลาร์ เป็น 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน่าจะถูกนำไปใช้ในการซื้อ Ethereum เพิ่มเติมตามแผนการลงทุนที่เน้นการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลระยะยาว

บริษัท SharpLink เดิมทีดำเนินธุรกิจด้านซอฟต์แวร์และการตลาดในวงการ iGaming แต่ในช่วงปี 2024-2025 บริษัทได้เปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ มุ่งเน้นการลงทุนใน Ethereum โดยได้รับการสนับสนุนจาก ConsenSys และ EmberCN

ราคา ETH พุ่ง – หุ้น SharpLink ผันผวน

ขณะที่ราคาของ Ethereum พุ่งขึ้น 8% ภายใน 24 ชั่วโมง แตะระดับ $3,605 หุ้นของ SharpLink ปรับตัวลดลง 2.62% มาปิดที่ $36.4 ในวันพฤหัสฯ ตามข้อมูลจาก Yahoo Finance อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นแล้วกว่า 96.96% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นมากถึง 373.96% ตั้งแต่ต้นปี

แม้ราคาหุ้นจะผันผวน แต่การเคลื่อนไหวของ SharpLink ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณชัดเจนว่า “สถาบัน” กำลังเข้าสู่ตลาด Ethereum อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดกำลังฟื้นตัว และกระแสเงินทุนเริ่มไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลอีกครั้ง

‍

อ้างอิง : theblock.co

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/sharplink-holds-most-ethereum

เกษียณนี้มี Bitcoin! ทรัมป์เล็งออกคำสั่งบริหาร อนุญาตคริปโต-ทอง-Private Equity เข้ากองทุนเกษียณ

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ วางแผนจะออกคำสั่งบริหาร (Executive Order) เพื่อเปิดโอกาสให้กองทุนเกษียณ 401(k) สามารถลงทุนใน คริปโตเคอร์เรนซี, ทองคำ, Private Equity และสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ ได้ในอนาคตอันใกล้ ตามรายงานจาก Financial Times โดยอ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดถึง 3 ราย

ปลดล็อกข้อจำกัดการลงทุนในกองทุนเกษียณ

หากคำสั่งนี้ถูกประกาศใช้ หน่วยงานกำกับดูแลจะต้องกลับไปทบทวนข้อจำกัดเดิมที่ขวางไม่ให้กองทุน 401(k) ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงคริปโต เช่น Bitcoin และ Ethereum

แนวคิดดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนท่าทีของหน่วยงานรัฐต่อคริปโตในกองทุนเกษียณ โดยในวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้ถอนคำเตือนเดิมที่เคยเรียกร้องให้นักลงทุน "ระมัดระวังอย่างยิ่ง" หากต้องการนำคริปโตไปใช้ในกลยุทธ์ลงทุน โดยระบุว่าคำแนะนำเดิมเป็น “การใช้อำนาจเกินขอบเขต” ในยุครัฐบาล Biden

กฎหมายและความพยายามก่อนหน้า

ไม่ใช่แค่คำสั่งบริหารเท่านั้นที่พยายามผลักดันแนวคิดนี้ ย้อนกลับไปในปี 2022 ส.ส. Peter Meijer จากพรรครีพับลิกัน (รัฐมิชิแกน) เคยเสนอ ร่างกฎหมาย Retirement Savings Modernization Act ที่ต้องการแก้ไขกฎหมายปี 1974 เพื่อให้กองทุนเกษียณสามารถลงทุนในคริปโต, Private Equity, Venture Capital และสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ ได้เช่นกัน แม้ว่าร่างนี้จะไม่ผ่านการพิจารณาในสภา แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ

กองทุน 401(k) มูลค่ากว่า 8.7 ล้านล้านดอลลาร์

ตามข้อมูลจาก Investment Company Institute ณ เดือนมีนาคม 2024 ชาวอเมริกันถือครองเงินในกองทุน 401(k) รวมกันกว่า 8.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการลงทุนเช่นนี้อาจมีผลกระทบต่อระบบการเงินและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในวงกว้าง

หลายรัฐนำร่องลงทุนคริปโตในกองทุนบำนาญ

ปัจจุบันมีหลายรัฐในสหรัฐฯ ที่เริ่มนำร่องลงทุนคริปโตผ่านกองทุนเกษียณแล้ว เช่น:

• รัฐมิชิแกน: เผยถือครอง Bitcoin ETF มูลค่า 6.6 ล้านดอลลาร์ และ Ethereum ETF อีก 10 ล้านดอลลาร์
• รัฐวิสคอนซิน: มีการลงทุนใน Spot Bitcoin ETF มูลค่ากว่า 163 ล้านดอลลาร์
• รัฐนอร์ธแคโรไลนา: เสนอร่างกฎหมายให้ลงทุนสูงสุด 5% ของเงินในกองทุนเกษียณในคริปโต

การเคลื่อนไหวเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการเปิดรับคริปโตในระดับสถาบัน โดยเฉพาะในพอร์ตเกษียณ มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

‍

อ้างอิง : theblock.co
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/trump-crypto-retirement-401k-ethereum-bitcoin

Crypto Week ปิดสวย! สภาคองเกรสโหวตผ่าน 3 กฎหมายสำคัญ เปิดทางตลาดคริปโตสหรัฐฯ

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเห็นชอบผ่าน กฎหมายคริปโตสำคัญ 3 ฉบับ หลังเผชิญความล่าช้าเนื่องจากการถกเถียงในหมู่สมาชิกพรรครีพับลิกันเกี่ยวกับประเด็นการแบน “สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง” (CBDC)

ผลการโหวตมีดังนี้:

• CLARITY Act: ผ่านด้วยคะแนน 294 ต่อ 134 เป็นร่างกฎหมายเพื่อกำหนดโครงสร้างตลาดคริปโตอย่างชัดเจน
• GENIUS Act: ผ่านด้วยคะแนน 308 ต่อ 122 เป็นร่างกฎหมายควบคุม Stablecoin และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม
• Anti-CBDC Surveillance State Act: ผ่านด้วยคะแนน 219 ต่อ 210 เป็นร่างกฎหมายแบนการพัฒนา CBDC โดยภาครัฐ

โดยเฉพาะ GENIUS Act ได้รับเสียงสนับสนุนจากเดโมแครตมากกว่า 100 คน ขณะที่ CLARITY ก็ได้รับเสียง “เห็นชอบ” จากเดโมแครตร่วม 80 เสียง แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือข้ามพรรคในบางประเด็น

ทรัมป์ลุยเดินหน้า “Crypto Agenda”

ทั้ง 3 ร่างกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญของ “Crypto Week” ที่พรรครีพับลิกันใช้เป็นแนวรบหลักด้านนโยบายการเงิน โดยสอดรับกับท่าทีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ต้องการเร่งผลักดันนโยบายสนับสนุนคริปโตทันทีหากกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว

ก่อนหน้านี้ ร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับเคยติดค้างอยู่ในขั้นตอนการโหวตนานหลายชั่วโมง เนื่องจากสมาชิกรีพับลิกันบางกลุ่มพยายามล็อบบี้ให้ใส่บทบัญญัติ “แบน CBDC โดยเด็ดขาด” ไว้ในแพ็คเกจเดียวกันทั้งหมด

ในท้ายที่สุด สภาเลือกแยกพิจารณาเป็นรายฉบับ และผลักดัน Anti-CBDC Act ให้ผ่านแยกจากอีก 2 ฉบับสำเร็จ

ภาคอุตสาหกรรมคริปโตยกให้เป็น “ชัยชนะครั้งสำคัญ”

กลุ่มภาคธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนใหญ่แสดงความยินดีต่อผลการโหวตครั้งนี้ โดยมองว่าเป็น “ชัยชนะเชิงโครงสร้าง” ที่จะส่งผลดีต่อการลงทุนและการพัฒนาในระยะยาว

Summer Mersinger อดีตกรรมาธิการ CFTC และปัจจุบันเป็น CEO ของ Blockchain Association ให้ความเห็นว่า

“การที่ Anti-CBDC Act ผ่าน แสดงถึงความเชื่อมั่นในเสรีภาพทางการเงิน การแข่งขันในตลาด และความเป็นส่วนตัวของประชาชน”

เดโมแครตบางส่วนยังคัดค้านรุนแรง

ในอีกฝั่งหนึ่ง Maxine Waters สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐแคลิฟอร์เนีย และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการเงินของสภา แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับทั้ง 3 ร่างกฎหมาย โดยกล่าวว่า

“กฎหมายเหล่านี้จะเปิดช่องโหว่ขนาดใหญ่ในระบบการเงินของประเทศ ภายใต้ข้ออ้างว่าเป็นนวัตกรรม แต่แท้จริงแล้วอาจพาเราไปสู่วิกฤตซ้ำรอยปี 2008 ที่ทำให้ความมั่งคั่งของผู้คนหายไปนับล้านล้านดอลลาร์”

Waters ยังจัดงานแถลงข่าวในช่วงเดียวกันชื่อว่า “Anti-Crypto Corruption Week” เพื่อตอบโต้กับแนวรุกของรีพับลิกัน และกล่าวหาว่าแผนคริปโตของทรัมป์มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างร้ายแรง

อัปเดตล่าสุด: GENIUS Act จ่อถึงทรัมป์ ส่วนอีก 2 ฉบับรอวุฒิสภา

ขณะนี้ GENIUS Act ได้ผ่านวุฒิสภาแล้วในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และหากไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ร่างกฎหมายนี้จะเข้าสู่โต๊ะของประธานาธิบดีทรัมป์ภายในวันศุกร์นี้

ในขณะที่ CLARITY Act และ Anti-CBDC Act จะเข้าสู่การพิจารณาในวุฒิสภา ซึ่งอาจมีการแก้ไขหรือถกเถียงเพิ่มเติมก่อนกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง หรือเข้าสู่ขั้นตอนการลงนามโดยประธานาธิบดี

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/us-house-passes-crypto-bills-clarity-genius-anti-cbdc-2025