AOTเร่งปรับโครงสร้างรายได้ อัพยอดผลตอบแทนระยะยาว

#AOT #ทันหุ้น – AOT ลุ้นเคาะขึ้นค่า PSC คาดเริ่มเก็บเดือนกุมภาพันธ์ 2569 และอยู่ระหว่างขออนุมัติ CAAI ปรับโครงสร้างรายได้ธุรกิจการบิน ด้านรายได้ไม่ใช่ธุรกิจการบินได้ที่ปรึกษาสัญญาคิงเพาเวอร์แล้วคาดได้ผลศึกษา ตุลาคม 2568 รวมถึงเตรียมลงนามสัญญาผู้ให้บริการภาคพื้นรายที่ 3 เดือนตุลาคม 2568 เช่นกัน ขณะที่โบรก แนะ “ซื้อ” เป้า 39 บาท ท่องเที่ยวหนุนระยะยาว

นางสาวปวีณา  จริยริติพงศ์  รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า จากกรณีที่ AOT ยื่นเรื่องไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(CAAT) เพื่อขอปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) ทั้งผู้โดยสารคนไทย และผู้โดยสารต่างประเทศอีก 5 บาทนั้น ล่าสุดได้รับอนุมัติจาก CAAT เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) กระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาบรรจุในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอน

ทั้งนี้หากได้รับอนุมัติอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออกคนไทยจะอยู่ที่ 135 บาทต่อคน จากปัจจุบันจัดเก็บที่อัตรา 130 บาท และอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออกชาวต่างชาติจะอยู่ที่ 735 บาทต่อคน จากปัจจุบัน 730 บาทต่อคน เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มจัดเก็บค่าบริการในอัตราใหม่ได้ภายในไตรมาส 2/2568-2569 (ม.ค.-มี.ค.2569) คาดว่าจะเพิ่มรายได้ธุรกิจการบิน (Aero) ให้เพิ่มขึ้นราว 200 ล้านบาทต่อปี

ปรับโครงสร้างรายได้

พร้อมกันนี้ อยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติ ปรับโครงสร้างรายได้ธุรกิจการบินรายการอื่น อาทิ ค่าธรรมเนียมการขึ้นลงและจอดพัก (Landing & Parking), การจัดเก็บค่าธรรมเนียมผู้โดยสารรอต่อเครื่อง (Transit/Transfer), ค่าใช้พื้นที่สนามบินของสายการบิน ฯลฯ รวมถึงอยู่ระหว่างขออนุมัติการปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออกอีกครั้ง โดย AOT ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจการบินให้แตะราว 60% ของรายได้รวม จาก ณ สิ้นปี 2566-2567 ที่ราว 54% เพื่อให้รายได้รวมของบริษัทเติบโตอย่างมั่นคง สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน

“บริษัทมุ่งกลยุทธ์การเติบอย่างยั่งยืน จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลายด้านทั้งการจัดเก็บรายได้ฝั่ง Aero ซึ่งยังมีหลายรายการที่AOT เรียกเก็บในอัตราที่ต่ำกว่าท่าอากาศยานนานาชาติอื่นๆ โดยเฉพาะการเก็บค่าธรรมเนียมผู้โดยสารรอต่อเครื่องซึ่งไม่เคยเรียกเก็บเลย และNon Aero เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน”

จ่อลงนามผู้ประกอบการภาคพื้น

ด้านแผนการเติบโตรายได้ธุรกิจที่ไม่ใช่การบิน (Non Aero) ทาง AOT อยู่ระหว่างคัดเลือกภาคเอกชนร่วมลงทุนโครงการให้บริการภาคพื้น – บริการที่เกี่ยวเนื่อง และผู้ให้บริการคลังสินค้า (Cargo) มูลค่ารวมกว่า 6.73 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะทราบรายชื่อเอกชนผู้ชนะการประมูลภายในไตรมาส 4/2567-2568 (ก.ค.-ก.ย.2568) นี้ โดยเอกชนรายที่ 3 น่าจะสามารถเริ่มให้บริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ภายในไตรมาส 1/2568-2569 (ต.ค. - ธ.ค.2568)

สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาเงื่อนไขสัญญาเช่าพื้นที่ภายในท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ AOT ล่าสุดได้ลงนามจ้างที่ปรึกษา 2 รายแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะได้ผลการศึกษาภายในไตรมาส 4/2567-2568 (ก.ค.-ก.ย.2568) นี้ จากนั้นจะนำเสนอแนวทางการเจรจา แก้ปัญหาเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท (บอร์ดบริษัท) เพื่อพิจารณาอนุมัติดำเนินการตามขั้นตอน

แนะ “ซื้อ” เป้า 39 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) คาดรายได้งวดไตรมาส 3/2567-2568 (เม.ย.-มิ.ย.2568) ของ AOT ที่ 15,739 ล้านบาท ลดลง -4%YoY, และลดลง 12%QoQ พร้อมคาดกำไรสุทธิ ที่ 3,755 ล้านบาท ลดลง 18%YoY, และลดลง 26%QoQ

สำหรับปริมาณผู้โดยสารรวมงวด 9 เดือนแรกของปี 2567-2568 ที่ 97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8%YoY อาจไม่ถึงเป้าหมายที่ AOT ประเมินไว้ที่ระดับ 130 ล้านคน ซึ่งจะกระทบกับกำไรทั้งปี โดยหากกำไรสุทธิออกมาตามคาดจะทำให้กำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567-2568 คิดเป็นสัดส่วน 77% ของกำไรทั้งปีที่ประเมินไว้ที่ 18,452 ล้านบาท ลดลง 4% YoYทั้งนี้หากมองระยะยาวเรายังคาดว่า AOT จะได้รับผลดีจากการที่ภาคการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของไทย จึงยังแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 39 บาท