รีเซต

SET มูลค่าพื้นฐานเริ่มน่าสนใจ แนะรอซื้อ 1330-1340 จุด 5 หุ้นควรมีติดพอร์ต

SET มูลค่าพื้นฐานเริ่มน่าสนใจ แนะรอซื้อ 1330-1340 จุด 5 หุ้นควรมีติดพอร์ต
ทันหุ้น
13 มกราคม 2568 ( 17:24 )
8

สวัสดีครับท่านนักลงทุน SET ยังปรับลงต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยกดดันจากเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 2568 ลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม จาก 4 ครั้ง เหลือ 2 ครั้ง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับขึ้น เช่นเดียวกับ ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลต่อนโยบายของทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 มกราคมนี้  ส่งผลให้ Fund Flow ยังมีทิศทางไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง 


ทั้งนี้แนวโน้ม SET มีแนวรับถัดไปบริเวณ 1330-1340 จุด เป็นจุดติดตามถึงโอกาสในการลุ้นฟื้นตัวอีกครั้ง เนื่องจาก ในเชิง Valuation โดยหากอิงประมาณการกำไรตลาดฯ ปี 2568 ที่ราว 96 บาท/หุ้น และดัชนีที่ระดับบริเวณ 1330-1340 จุด จะคิดเป็น Forward P/E ไม่ถึง 14.0 เท่า อีกทั้ง Earning Yield Gap ก็อยู่ในระดับที่น่าสนใจกว่า 4.6% ดังนั้น หากเป็นการซื้อถือเพื่อลงทุนระยะกลางถึงยาว ผมมองแนวรับบริเวณนี้ คาดว่าดัชนีจะเริ่มมี downside ที่จำกัด 


หุ้นที่น่าสนใจแนะนำใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากรัฐออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค โดยนำค่าซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt) ในช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 และแจกเงินหมื่นเฟส 2 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC HMPRO CPALL TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG OSP) และกลุ่มท่องเที่ยว (MINT) 


2) นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดจะมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนภายใต้ภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังรอคอยปัจจัยชี้นำใหม่ๆ และยังมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง อีกทั้งปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ แนะนำ AP KTB BBL PTT


3) หุ้น Earning Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก GULF OSP AMATA AU TIDLOR BCP 


ทั้งนี้ ผมเลือกหุ้นที่แนะนำในธีมต่างๆ มาจัดพอร์ตหุ้น 5 ตัว ไว้เป็นแนวทางสำหรับท่านนักลงทุน ดังนี้ ครับ 1) KTB หุ้นปันผลสูงซึ่งคาดจะมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield >3% มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ ส่วน 4Q67 คาดกำไรเพิ่มขึ้น 44%YoY (ECL ลดลง) และลดลง 21%QoQ (NIM ลดลง, opex สูงขึ้น) 


2) CPALL หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค Easy E-Receipt ในช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 และแจกเงินหมื่นเฟส 2 ในช่วงตรุษจีน จะช่วยสนับสนุน sentiment และเพิ่ม upside ให้กับกำไร คาดกำไร 4Q67 จะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ โดยจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ 


3) BCP หุ้น Earning Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ จากค่าการกลั่นที่แข็งแกร่งขึ้นและราคาน้ำมันที่มีเสถียรภาพมากขึ้นจะช่วยสนับสนุนกําไร อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ 


4) OSP หุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ขณะที่ 4Q67 คาดกำไรปกติจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและการเติมสต็อกสินค้าหลังน้ำท่วมพร้อมกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น 


5) AU คาดปี 2567 กําไรสุทธิเติบโตเด่น 65%YoY และเติบโตต่อ 18%YoY ในปี 2568 การเติบโตต่อเนื่องมีจุดแข็งที่เป็นแบรนด์ร้านขนมซึ่งเป็นที่นิยมและสามารถสร้างกระแสที่ดี อีกทั้งยังมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง นอกจากนี้มองราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อนกําไรที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น


แล้วพบกันใหม่ ในคอลัมน์ฉบับหน้า ด้วยรัก และหวังดี



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง