รีเซต

ปากีสถานเจอ “เมฆระเบิด” ทำน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม ผู้เสียชีวิตพุ่งเกือบ 700 ราย

ปากีสถานเจอ “เมฆระเบิด” ทำน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม ผู้เสียชีวิตพุ่งเกือบ 700 ราย
TNN ช่อง16
21 สิงหาคม 2568 ( 09:30 )

ปากีสถานยังคงเผชิญฝนตกหนักฉับพลัน หรือ “เมฆระเบิด” (Cloudburst) ติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ล่าสุดสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (NDMA) รายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 365 ราย ในรอบเหตุการณ์ล่าสุด ส่งผลให้ยอดรวมตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนสูงถึง 695 รายทั่วประเทศ


ที่หมู่บ้าน ดาโลรี บาลา ใกล้เทือกเขากาดูน เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มรวมแล้ว 30 ราย และยังมีผู้สูญหายอย่างน้อย 9 คน ขณะที่หมู่บ้านบนภูเขาหลายแห่งในเขตสวาบี บ้านเรือนกว่า 100 หลังถูกน้ำเชี่ยวและก้อนหินขนาดใหญ่พัดถล่ม ชาวบ้านเล่าว่าได้ยินเสียงดังคล้ายฟ้าร้อง ก่อนที่กระแสน้ำเชี่ยวจะกวาดทุกอย่างหายไปภายในไม่กี่วินาที

ในเมือง บูเนอร์ ฝนตกหนักกว่า 150 มิลลิเมตรในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ราย นับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดของฤดูมรสุมปีนี้ และทางตอนใต้ที่เมืองท่า การาจี ฝนตกสูงถึง 145 มิลลิเมตร ถนนสายหลักหลายเส้นถูกน้ำท่วม รถยนต์ลอยในกระแสน้ำ บ้านเรือนในพื้นที่ลุ่มต่ำเสียหายหนัก ขณะที่เกิดไฟฟ้าดับและการจราจรเป็นอัมพาต


NDMA เปิดเผยว่า มีประชาชนกว่า 25,000 คน ได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัยแล้ว พร้อมเตือนว่าฤดูมรสุมปีนี้อาจรุนแรงกว่าปกติ และอาจยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 10 กันยายน


สำหรับฝนตกหนักฉับพลัน หรือที่เรียกว่า เมฆระเบิด (Cloudburst) คือปรากฏการณ์ที่ฝนจำนวนมหาศาลตกลงมาในช่วงเวลาสั้น ๆ มักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง และเกิดขึ้นในพื้นที่จำกัดเพียงราว 30 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำฝนที่เทลงมาในครั้งเดียว อาจเทียบเท่ากับฝนที่ควรตกต่อเนื่องหลายชั่วโมงหรือมากกว่านั้น

สาเหตุหลักมาจากอากาศที่อบอุ่นและชื้นลอยตัวขึ้นสูง กระทบกับภูเขาหรือเนินเขา จนทำให้เกิดเมฆหนาแน่นแบบการพาความร้อน (Convective Cloud) เมื่อเมฆกักเก็บความชื้นไว้ไม่ไหว ก็จะแตกตัวและปล่อยฝนออกมาพร้อมกันอย่างรุนแรงราวกับ “ระเบิดฝน” โดยภูมิประเทศที่มี ภูเขาสูงและสภาพอากาศชื้น อย่างในอินเดียและปากีสถาน จึงเหมาะต่อการเกิดเมฆระเบิด โดยเฉพาะตามแนวเทือกเขาหิมาลัย การาโกรัม และฮินดูกูช ซึ่งดักเก็บมวลอากาศชื้นไม่ให้กระจายตัวได้ง่าย


นักวิชาการชี้ว่า ภาวะโลกร้อน ทำให้บรรยากาศเก็บความชื้นได้มากขึ้น ทุก ๆ อุณหภูมิที่สูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส อากาศจะกักเก็บไอน้ำได้เพิ่มราว 7% ส่งผลให้เมื่อเกิดฝนตก จะมีความรุนแรงมากกว่าเดิม โดยมหาสมุทรอินเดียและทะเลอาหรับที่ร้อนขึ้นยังผลักดันความชื้นเข้าสู่บรรยากาศมากขึ้น ขณะเดียวกันธารน้ำแข็งและหิมะที่ละลายบนภูเขาสูงก็เปลี่ยนแปลงรูปแบบอากาศในท้องถิ่น ยิ่งทำให้ฝนตกมีลักษณะ “ท่วมฉับพลันสลับแล้งจัด” แทนที่จะตกต่อเนื่องเหมือนในอดีต


นอกจากนี้ การพัฒนาเมืองโดยขาดการวางแผน การตัดไม้ทำลายป่า และการสูญเสียพื้นที่ชุ่มน้ำ ก็ยิ่งทำให้พื้นดินซึมน้ำได้น้อยลง เมื่อฝนตกหนักเฉียบพลันจึงเกิดน้ำท่วมและดินถล่มรุนแรงขึ้น


เมฆระเบิดถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ คาดการณ์ได้ยาก เพราะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มีขนาดเล็กและระยะเวลาสั้น แต่ความเสียหายที่ตามมามักกว้างขวางและรุนแรงมาก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียใต้ที่มีทั้งภูเขา มรสุม และความชื้นสูง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้ปรากฏการณ์นี้เกิดบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง