เทียบฟอร์ม 2 หุ้นเครื่องดื่มชูกำลัง CBG-OSP
บล.บัวหลวง ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ CBG และหุ้นบริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน) หรือ OSP โดยได้ประเมินปัจจัยพื้นฐานของทั้งสองหลักทรัพย์ และคำแนะนำรวมถึงราคาเป้าหมาย
หุ้น CBG ประเมินว่ากำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 1/66 และคาดเห็นการฟื้นตัวแกร่งระดับ 58% ในไตรมาส 2/66 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน หนุนโดยกลยุทธ์การคงราคา (เทียบกับคู่แข่งปรับเพิ่ม 20%) และทำการตลาดเชิงรุก ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดสำหรับธุรกิจ Energy Drinks ขยายตัว การส่งออกที่เพิ่มขึ้น โดยรวมคาดรายได้เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อน และอัตรากำไรขยายตัว 140bps จากไตรมาสก่อน และประเมินว่ารายได้และอัตรากำไรที่ขยายตัวนี้จะหนุนการฟื้นตัวกลับต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/66 และยังมีแผนที่จะผลิตขวดแก้วเพื่อส่งขายต่อให้ธุรกิจเบียร์ของกลุ่ม ผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมในประมาณการกำไร
กลยุทธ์การลงทุน มองว่า ราคาหุ้น CBG ปรับตัวลงมาแล้วกว่า 34% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ไม่สอดคล้องกับแนวโน้มกำไรที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง เป็นโอกาสในการสะสม จึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมแนะนำถือ พร้อมกับให้ราคาเป้าหมายที่ 78 บาทต่อหุ้น
ส่วนหุ้น OSP แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/66 คาดว่าจะฟื้นตัว 39% จากไตรมาสก่อน หนุนจากยอดขายเพิ่มขึ้นทั้งตลาด Energy drinks ในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งอัตรากำไรขยายตัว โดยส่วนแบ่งการตลาดของตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น 1% เป็น 48% ส่วนยอดขายต่างประเทศเติบโต Double-digit ขณะที่ในไตรมาส 3/66 คาดจะได้รับผลกระทบ เชิงฤดูกาล (กอรปกับตลาดเมียนมาไม่ดี) ส่งผลต่อกำไรอ่อนตัวลง ก่อนจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในไตรมาส 4/66
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยมองว่าการขยายตัวของธุรกิจในเมียนมา (ซึ่งมีขนาดราว 13% ของคาดการณ์รายได้ปี 2566-2567) ยังมีความเสี่ยงทางการเมือง และเศรษฐกิจ รวมทั้งค่าเงินอ่อนค่า จะยังกดดันผลประกอบการและราคาหุ้น ในทางกลับกันอาจจะพอเห็นความหวังด้านบวกหากส่วนแบ่งการตลาดทยอยฟื้นตัวกลับมาต่อเนื่องได้อย่างจริงจังในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะหนุนอัตรากำไรดีขึ้นด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยังต้องติดตามต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน ยังคงให้คำแนะนำ ถือ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 32 บาท เพื่อรอปัจจัยบวกใหม่ๆ มากกว่านี้ซึ่งอาจจะต้องรอถึงไตรมาส 4/66