จับตา สหรัฐฯ - อิหร่าน เจรจาประเด็น "นิวเคลียร์" ที่โอมานสุดสัปดาห์นี้

ตัวแทนระดับสูงจากสหรัฐฯ และอิหร่าน จะจัดประชุมหารือร่วมกันในวันนี้ (12 เมษายน) ที่ประเทศโอมาน ถกประเด็นเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของอิหร่าน โดยนับเป็นการเจรจาโดยตรงครั้งแรกในรอบ 7 ปี ระหว่าง 2 ประเทศที่เป็นเหมือนศัตรูกันมาอย่างยาวนาน

การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์หลังจากอิหร่าน ได้พัฒนาวัตถุดิบนิวเคลียร์ของตนเองในปริมาณที่มากพอที่จะผลิตหัวรบนิวเคลียร์ได้ และคาดว่าในเวลาอีกไม่ถึง 1 ปี อิหร่านจะสามารถผลิตและส่งมอบอาวุธนิวเคลียร์ได้จริง โดยที่ทรัมป์ได้กําหนดเวลา 2 เดือน ให้แก่อิหร่านเพื่อยอมรับข้อตกลงที่จะทําให้อิหร่านลดรอยเท้านิวเคลียร์ (nuclear footprint) หรือทำลายโครงการทั้งหมด

แม้ว่าก่อนหน้านี้สหรัฐฯ จะเปิดโอกาสให้มีการเจรจากับอิหร่าน แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำชัดหลายครั้งว่าอิหร่านมีทางเลือกที่จะทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ หรือจะเลือกถูกโจมตีทางทหารหากไม่ยอมทำข้อตกลง โดยที่อิหร่านเตือนสหรัฐฯ กลับว่าการโจมตีใด ๆ ก็ตามจะนำพาให้สหรัฐฯ เข้าสู่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยิ่งลุกลามเป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าการหารือในครั้งนี้เป็นเวทีสําหรับการประลองทางการทูตที่มีเดิมพันสูง

ก่อนการประชุมในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น ทั้งสองฝ่ายได้นําเสนอแนวคิดในแบบต่าง ๆ ว่าการเจรจานี้จะเกิดขึ้นอย่างไร หลังจากทรัมป์ประกาศระหว่างหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ในห้องทำงานรูปไข่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ฝ่ายบริหารของเขาจะมีการเจรจากับอิหร่านในไม่ช้าที่ทรัมป์ยืนกรานว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และ อิหร่านจะไม่พึ่งพาตัวกลาง แต่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านเรียกการประชุมในครั้งนี้ว่าเป็นการเจรจาระดับสูง “ทางอ้อม“ เพราะจะมีผู้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ทั้งสองประเทศ 

เมื่อวานนี้ (11 เมษายน) แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่าสหรัฐฯ ต้องการทำเป้าหมายให้ชัดเจนกับอิหร่านซึ่งเป้าหมายสูงสุดของประธานาธิบดีทรัมป์คือการทำให้แน่ใจว่าอิหร่านจะไม่มีวันได้ครองครองอาวุธนิวเคลียร์