‘คลัง’ เผยมาตรการเยียวยาเกษตรกร ‘ก.เกษตร’ เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ชงเข้าครม.นัดหน้านี้
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากคลังมีมาตรการแจกเงินเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านการแจกเงิน 5,000 บาทไปแล้ว พบว่าจะมีการนำมาตรการเยียวยาในส่วนของกลุ่มเกษตรกรเข้าเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 เมษายนนี้
โดยเป็นมาตรการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการนำเสนอเอง ส่วนกระทรวงการคลังจะให้ความร่วมมือในส่วนของการคัดกรองผู้ที่ได้รับการเยียวยาไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้มีบุคคลใดได้รับการช่วยเหลือซ้ำซ้อน โดยจะเป็นการช่วยจัดการฐานข้อมูลที่มี ส่วนรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ของมาตรการ คลังไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ ที่จะต้องพิจารณาและกำหนดออกมาเอง
“กระทรวงเกษตรฯ น่าจะอยู่ในขั้นตอนการจัดการฐานข้อมูล เพื่อทำให้จำนวนเกษตรกรแม่นยำที่สุด โดยการจ่ายเงินเยียวยาให้เกษตรกร จะจ่ายผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธ.ก.ส.) ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่น่าจะมีบัญชีกับธนาคารนี้อยู่แล้ว ส่วนการจะจ่ายเงินเยียวยาจริง จะมีการตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการรับสิทธิ์ช่วยเหลือซ้ำซ้อน โดยขณะนี้ทีมงานของผู้พิทักษ์อยู่ในระหว่างการลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบผู้ขอทบทวนสิทธิ์ทั่วประเทศ ซึ่งได้เน้นย้ำให้ลงไปตรวจสอบผู้ขอทบทวนสิทธิ์ดังกล่าวให้เร็วที่สุด ทำให้ช่วงวันหยุดทีมงานก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การตรวจสอบทำได้เร็วที่สุด โดยจากการลงพื้นที่ก็พบว่ามีผู้ขอทบทวนสิทธิ์ที่ไม่ตรงเงื่อนไขอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมยังเป็นไปได้ดี เพราะประชาชนให้ความร่วมมือดีและยินดีต้อนรับทีมผู้พิทักษ์ เนื่องจากต้องการให้เห็นถึงความเดือดร้อนและผลกระทบที่ได้รับจากโควิด-19” นายลวรณกล่าว
นายลวรณกล่าวว่า ความคืบหน้าและสถานะของมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ล่าสุด มีผู้ขอทบทวนสิทธิ์แล้ว 3.1 ล้านคน มีผู้ขอสละสิทธิ์แล้ว 900 คน ส่วนตัวเลขการยกเลิกลงทะเบียนในปัจจุบันอยู่ที่ 9.1 แสนคน เป็นตัวเลขจาก 2 ส่วนคือ ตัวเลขที่ยกเลิกการขอเข้าร่วมโครงการ ที่ยกเลิกแล้วประมาณ 8 แสนกว่าคน ในช่วงที่ผ่านมา และตัวเลขยกเลิกการขอทบทวนสิทธิ์ รวมอยู่ด้วยกันทั้ง 2 ส่วน การขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ลงทะเบียนที่ยังไม่ครบถ้วน
ขณะนี้มีผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมมาแล้ว 5 ล้านคน ยังขาดอีก 1.3 ล้านคน โดยต้องการให้ผู้ที่รู้ตัวว่าต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่งข้อมูลมาให้เร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ของผู้ลงทะเบียนเอง โดยในสัปดาห์หน้าวันจันทร์-อังคาร (27-28 เมษายน) จะมีผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยาเพิ่มอีก 1.5 ล้านคน และวันพุทธ-พฤหัสบดี (29-30 เมษายน) อีกไม่น่าจะต่ำกว่า 1.5 ล้านคนเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นตัวเลขที่ชัดเจน แต่คิดว่ากระบวนการจากนี้จะทำได้เร็วขึ้น เพราะมีความล่าช้าในช่วงแรกเท่านั้น จึงยืนยันว่าจะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในต้นเดือนพฤษภาคมนี้