รีเซต

ครม. ไฟเขียว ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานคดีอาญาได้รับความคุ้มครองตามมาตรการพิเศษ

ครม. ไฟเขียว ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานคดีอาญาได้รับความคุ้มครองตามมาตรการพิเศษ
มติชน
1 ธันวาคม 2563 ( 16:34 )
81
ครม. ไฟเขียว ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานคดีอาญาได้รับความคุ้มครองตามมาตรการพิเศษ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 1 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลข่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คุ้มครองพยานในคดีอาญา ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ.2546 เกี่ยวกับบทบัญญัติทั่วไปและมาตรการพิเศษในการคุ้มครองพยาน หน้าที่และอำนาจของสำนักงานคุ้มครองพยาน และอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการคุ้มครองความปลอดภัยของพยาน รวมไปถึงหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่พยาน เพื่อให้พยานเกิดความเขื่อมั่นได้รับการคุ้มครอง และได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมยิ่งขึ้น

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทั้งนี้ได้กำหนดให้พยานในคดีต่อไปนี้จะได้รับการคุ้มครองตามมาตรการพิเศษ ได้แก่ คดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือคดีความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี สำหรับมาตรการพิเศษในการคุ้มครองพยาน ที่สำนักงานคุ้มครองพยานสามารถดำเนินการได้อย่างใดอย่างหนึ่งมีดังนี้คือ ย้ายที่อยู่หรือจัดหาที่พักอันเหมาะสม, จ่ายค่าเลี้ยงชีพที่เหมาะสมแก่พยาน สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยาน, ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเปลี่ยน ชื่อตัว ชื่อสกุล และหลักฐานทางทะเบียนที่สามารถระบุตัวพยาน รวมทั้งการดำเนินการเพื่อกลับคืนสู่ฐานะเดิมตามคำขอของพยาน, ดำเนินการเพื่อให้มีอาชีพ ให้มีการศึกษาอบรม หรือดำเนินการใดเพื่อให้พยานสามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามที่เหมาะสม, ช่วยเหลือในการเรียกร้องสิทธิที่พยานพึงได้รับ, ดำเนินการให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยในระยะเวลาที่จำเป็น และดำเนินการอื่นใดให้พยานได้รับความช่วยเหลือหรือได้รับความคุ้มครองตามที่เห็นสมควร

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจค้นตัวบุคคล หรือยานพาหนะที่มีเหตุอันควรเชื่อว่าจะก่อภัยอันตรายหรือคุกคามพยาน สามี ภริยา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพยาน ในกรณีที่เป็นความผิดทางอาญา ให้มีอำนาจจับกุมและแจ้งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจท้องที่เพื่อดำเนินการต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง