เงินเฟ้อสหรัฐเร่งขึ้น มีผลต่อทองคำอย่างไร วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง
GOLD BULLISH
- การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ
- ความต้องการทองคำจากจีนในปีนี้คาดเพิ่มขึ้น
- ปัจจัยทางด้านเทคนิคเป็นขาขึ้น
GOLD BEARISH
- นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ
- แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว
- การกระจายวัคซีนโควิด-19
เงินเฟ้อสหรัฐเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเกินคาด
สัปดาห์ก่อนตลาดการเงินทั่วโลกจับตาอัตราเงินเฟ้อสหรัฐเดือนเมษายน ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งทั้ง 2 ตัวออกมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและสูงกว่าตลาดคาดไว้อย่างมาก เริ่มจากวันพุธดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.2% และเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 ดูจากกราฟประกอบเห็นภาพชัดเจนเลยว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเกินคาด จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ มีผลให้ราคาทองคำลดลง ตามมาด้วยวันพฤหัสดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.3% และเพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2553 และสูงกว่าตลาดคาดไว้ที่ระดับ 3.8% แต่กลายเป็นว่าราคาทองคำกลับเพิ่มขึ้น นักลงทุนเริ่มงงแล้วมั้ยครับ เดี๋ยวผมจะมาวิเคราะห์ในประเด็นให้นะครับ
ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ % yoy
ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ป้องกันอัตราเงินเฟ้อได้
ประเด็นเรื่อง Bond yield สหรัฐเพิ่มขึ้นที่เป็นประเด็นร้อนแรงในปีนี้ ปัจจัยที่ทำให้ Bond yield เพิ่มขึ้นมาจากการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น จนนำมาสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ผมประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐปีนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจาก 4 ปัจจัย คือ 1.มาตรการคลังของสหรัฐที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 2.มาตรการ QE ที่มีการพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบจำนวนมหาศาล 3. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก 4. การขาดแคลน Supply สินค้าบางอย่างอย่างชิป ทำให้อัตราเงินเฟ้อสหรัฐเป้าหมายที่เฟดใช้คือดัชนีราคา PCE พื้นฐานอาจพุ่งขึ้นเกินกว่าเป้าหมาย 2% แต่เฟดเปลี่ยนมาใช้แบบเฉลี่ยทำให้ถึงจะเกินกว่าเป้าหมาย แต่เฟดยังไม่จำเป็นต้องรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ คำถามที่ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐส่งผลบวกหรือลบต่อทองคำ จากงานวิจัยของ World Gold Council พบว่าดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐมีความสัมพันธ์กับราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญในบางช่วง แต่ปริมาณเงินในระบบความสัมพันธ์กับราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญในทุกช่วงเวลา ผมของสรุปว่าเมื่อดูระยะสั้นความกังวลที่เฟดจะเริ่มถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยเฉพาะมาตรการ QE ที่จะต้องมีการลดวงเงินในการซื้อพันธบัตร อาจจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่เมื่อมองในระยะยาวทองคำได้รับผลบวกอย่างแน่นอน เนื่องจากนักลงทุนจะหันเข้ามาลงทุนในทองคำเช่นกัน เพราะทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ป้องกันอัตราเงินเฟ้อได้
สัปดาห์นี้แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก การเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ซึ่งเป็นการประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 27-28 เมษายน ทำให้ทราบมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตละเอียดมากขึ้น จีดีพีไตรมาส 1 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะประกาศสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์เดือนเมษายน ประกอบด้วย การอนุญาตก่อสร้าง การเริ่มสร้างบ้าน และยอดขายบ้านมือสอง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพฤษภาคม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
สัปดาห์นี้ทองคำ Spot มีแนวรับ 1,825 ดอลลาร์ และ 1,810 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,870 ดอลลาร์ และ 1,880 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 27,050 บาท และ 26,850 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 27,650 บาท และ 27,750 บาท