MTS Gold แนะจุดซื้อทองคำรอบใหม่ รอจังหวะย่อตัวรับผลประชุมเฟด ลุ้นเป้าปลายปี 3,850 ดอลลาร์

นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE วันที่ 22 กันยายน 2568 โดยย้ำว่าภาพรวมของราคาทองคำยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่เนื่องจากราคาได้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว กลยุทธ์การลงทุนจึงต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ตลาดกำลังจับตามองในขณะนี้คือ ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะประกาศผลในช่วงเที่ยงคืนครึ่งของวันพรุ่งนี้ (คืนวันที่ 23 ย่างเข้า 24 ก.ย.) ซึ่งคาดว่าจะสร้างความผันผวนให้กับราคาได้

กรณีปกติ (ลดดอกเบี้ย 0.25%): ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งตลาดได้รับรู้ข่าวนี้ไปมากแล้ว หากผลเป็นไปตามนี้ ราคาอาจปรับขึ้นได้อีกไม่ไกล

กรณีเซอร์ไพรส์ (ลดดอกเบี้ย 0.50%): มีนักลงทุนส่วนน้อยที่คาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยถึง 0.50% หากเกิดขึ้นจริง จะเป็นปัจจัยบวกที่ส่งให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

"ผมเชื่อว่าในคืนนี้หรือคืนพรุ่งนี้ น่าจะมีแรงเหวี่ยงพอสมควรจากการตัดสินใจประชุมของเฟด" คุณหมอกฤชรัตน์กล่าว

จากแนวโน้มความผันผวนดังกล่าว คุณหมอกฤชรัตน์แนะนำกลยุทธ์สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อรอบใหม่ว่า ไม่ควรไล่ราคา แต่ให้รอจังหวะที่ราคาย่อตัวลงมา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยกว่า

แนวรับทองคำต่างประเทศ (Spot Gold): ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3,660 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับทองคำในประเทศ: ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 54,900 บาท

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุนระยะยาว: อาจไม่จำเป็นต้องทำอะไร หรือขายทำกำไรบางส่วนเพียง 5-10% ของพอร์ต

ปรับเป้าหมาย-ลุ้นปลายปีแตะ 3,850 ดอลลาร์

MTS Gold ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำสูงขึ้นตามทิศทางตลาดที่แข็งแกร่ง

เป้าหมายระยะสั้น: 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์

เป้าหมายสิ้นปี 2568: 3,800 - 3,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โอกาสแตะ 4,000ดอลลาร์ มีความเป็นไปได้หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ (พ.ย. และ ธ.ค.)

เป้าหมายระยะยาว (ปี 2569): ยังคงมีโอกาสเห็นราคาทองคำไทยแตะระดับ 60,000 บาท ซึ่งหมายความว่าราคาในตลาดโลกจะต้องทะลุระดับ 4,000ดอลลาร์ ขึ้นไป