“จีน” เพิ่มถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ ครั้งแรกในรอบ 8 เดือน
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศจีนได้เพิ่มการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ที่ 9.70 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน
การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯดังกล่าว เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนซึ่งถือครองอยู่ที่ 9.68 แสนล้านดอลลาร์ นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2553 ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ 8.44 แสนล้านดอลลาร์
ซึ่งความเคลื่อนไหวของจีนสวนทางกับญี่ปุ่น ที่ลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เหลือเพียง 1.234 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นยังครองตำแหน่งผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ นอกประเทศรายใหญ่ที่สุด
โยการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลงของญี่ปุ่น สอดคล้องกับทิศทางของตลาดค่าเงินไม่มากก็น้อย โดยในปีนี้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มีโอกาสที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อหนุนค่าเงินเยน
ในภาพรวมเดือนกรกฎาคม ประเทศต่าง ๆ ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ที่ 7.501 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 7.430 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีเงินจากต่างประเทศไหลเข้าสุทธิ 2.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม ลดลงจาก 5.89 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน นับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่มีเงินจากต่างประเทศไหลเข้าสหรัฐฯ
สำหรับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ในเดือนกรกฎาคม ต่างชาติขายหุ้นในบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน คิดเป็นมูลค่า 6.03 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับ 2.54 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นตัวเลขการไหลออกมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้
ขณะที่หุ้นกู้เอกชนสหรัฐฯ มีเงินไหลเข้า 8.78 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม ลดลงจาก 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้ ชาวอเมริกันยังลดการถือครองหลักทรัพย์ต่างประเทศระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายสุทธิ 2.72 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนมิถุนายนที่ขายสุทธิ 5.05 หมื่นล้านดอลลาร์
ข้อมูลจาก : TNN ONLINE
ภาพจาก : TNN