RCLรุกฐานตลาดเอเชีย รับเรือใหม่เสริมแกร่ง
#RCL #ทันหุ้น – RCL มุ่งขยายฐานตลาดภูมิภาคเอเชีย เจาะตลาดอินเดีย ภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกาซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่สนับสนุนอุตสาหกรรมโลกใหม่ทั้งยานยนต์อีวี, แผงโซล่าเซลล์ ฯลฯ ย้ำชัดพร้อมทยอยรับเรือใหญ่ 6 ลำต่อเนื่องทั้งปี 2567 เสริมกองเรือเสริมศักยภาพการแข่งขัน และลดอายุเฉลี่ยทั้งกองเรือรองรับการแข่งขันในอนาคต
นายทวินโชค ตันธุวนิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL กล่าวคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2566ว่า มีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 3/2566กดดันจากความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือที่เริ่มชะลอตัวลง ทั้งนี้ บริษัทสามารถขยายเส้นทางการให้บริการขนส่งเข้าสู่ภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกโดยมุ่งบริการขนส่งรถยนต์ EV, แผงโซล่าเซลล์, ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร, สินค้าโภคภัณฑ์ ควบคู่กับการขยายขอบเขตงานบริการเข้าสู่การให้บริการตู้คอนเทนเนอร์แบบห้องเย็น (Reefer Container) และธุรกิจคลังสินค้าและการจัดเก็บสินค้าอื่นๆ (Total Logistics) เพื่อสร้างรายได้ให้กับบริษัท
สำหรับสถานการณ์ทางรัฐภูมิศาสตร์ระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ณ ปัจจุบันยังไม่ส่งผลต่อการเดินเรือของบริษัท Zim Integrated Shipping Services Ltd. ซึ่งเป็นผู้เช่าเรือขนาด 12,000 TEUs ตามสัญญา 5ปีของบริษัท 2 ลำในอัตราค่าเช่าเฉลี่ยที่ 6.5 หมื่นดอลลาร์ต่อวัน เนื่องจากเส้นทางเดินเรือของ Zim Integrated เป็นเส้นทางขนส่งระหว่างภูมิภาคเอเซีย - สหรัฐอเมริกา ดังนั้น บริษัทจึงจะยังได้รับค่าเช่าตามสัญญาตามปกติ
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่า ความต้องการขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ทางเรือทั่วโลก ยังมีความท้าทายสูงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและกำลังการผลิตใหม่ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดในปี 2567รวมถึงความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์มีแนวโน้มที่จะกดดันอัตราค่าระวางเรือต่อไป (CMA CGM SA Bloomberg) ถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2567 และจะค่อยๆมีเสถียรภาพมากขึ้น เมื่อผู้ประกอบการเรือขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ในตลาดโลก ทยอยปลดระวางและทำลายเรือเก่าที่มีอายุการใช้งานสูง และมีต้นทุนการเดินเรือให้เป็นไปตามกฎลดการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ หรือกำมะถันให้เหลือ 0.5% ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) สูงมาก ซึ่งคาดว่าทยอยเกิดขึ้นช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เป็นต้นไป
มุ่งขยายตลาดเอเซีย
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเห็นความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะเส้นทางอินเดีย, ภูมิภาคตะวันออกกลาง, และทวีปแอฟริกาที่เริ่มกลายมาเป็นศูนย์กลางการผลิตผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยหลากหลาย จนกลายเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ที่สำคัญ มีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต บริษัทจึงยังคงแผนรับเรือใหญ่ ขนาด 7,000 TEU ถึงขนาดใหญ่ 12,000 TEU อีก 6 ลำต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 เพื่อเข้าประจำกองเรือ รองรับความต้องการขนส่งสินค้าในภูมิภาคดังกล่าว ควบคู่กับการพิจารณาปลดระวางเรือ – จำหน่ายเรือเก่าออกไป รวมถึงการขยายการให้บริการระบบโลจิสติกส์แลลครบวงจนเพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดในอนาคต
โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร Total Logistics ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าในด้านสินค้าโภคภัณฑ์ การตั้งค่าโลจิสติกส์ RCL สำหรับโลจิสติกส์แบบครบวงจรเพื่อแข่งขันในตลาด
“แม้ภาพรวมความต้องการขนส่งทางงเรือทั่วโลกยังดูไม่ดี แต่ในภูมิภาคอาเซียนยังมีแนวโน้มเติบโตในระดับที่เหมาะสมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ยังมีความเสี่ยง ควบคู่พิจารณาลงทุนเพื่อซื้อ หรือเช่าเรือใหม่เข้ามาเพื่อปรับลดอายุเฉลี่ยรวมของกองเรือให้ลดลง เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว”