รีเซต

CHOW ดันโรงไฟฟ้า 200 เมก ทุ่ม 156 ล.ซื้อกิจการโซลาร์

CHOW ดันโรงไฟฟ้า 200 เมก ทุ่ม 156 ล.ซื้อกิจการโซลาร์
ทันหุ้น
14 ตุลาคม 2568 ( 23:50 )
19

                นายอนาวิล  จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ ไบรท์ เวนเจอร์ส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัท ไชนิง สกาย โฮลดิ้ง จำกัด หรือ SSH ซึ่งเป็นบริษัทการร่วมค้า ที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อมผ่าน บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) หรือ CE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางตรงในสัดส่วน 87.36% ได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท อิเควเตอร์ โซลาร์ วัน จำกัด หรือ EQS โดยซื้อหุ้นจาก บริษัท อิเควเตอร์ โซลาร์ แคปปิทอล จำกัด หรือ EQC โดยซื้อในสัดส่วน 99.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เป็นมูลค่ารวม 156 ล้านบาท

                การเข้าลงทุนดังกล่าว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้และกระแสเงินสดของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ EQC เรียบร้อยแล้ว โรงไฟฟ้า EQS มีขนาด 10 เมกะวัตต์ โดยประโยชน์ที่ได้จากการลงทุน จะทำให้รายได้ประจำจากการจำหน่ายไฟฟ้า, กระแสเงินสดที่มั่นคงต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มบริษัท และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตสินทรัพย์พลังงานหมุนเวียน

                และการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของกลุ่มบริษัทในการสร้างพอร์ตโฟลิโอพลังงานที่ยั่งยืน และขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง คว้าโอกาสสำคัญเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

                ด้านนายปรมัตถ์  จุฬวนิช  ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน CHOW เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า การลงทุนข้างต้นอยู่ในส่วนหนึ่งของแผนงานเพิ่มจำนวนเมกะวัตต์ในธุรกิจโรงไฟฟ้าให้ถึง 200  เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปี 2568 โดยตัวเลขที่เป็นทางการปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 160 เมกะวัตต์แล้ว ซึ่งระหว่าง 2-3 เดือนสุดท้ายของปีนี้จึงคาดว่าจะมีทยอยประกาศความสำเร็จดีลเซ็นสัญญาเพิ่มเติมอีกจนครบจำนวนเป้าหมาย อีกทั้งระยะยาวบริษัทตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2570 จะมีกำลังการผลิตแตะระดับ 500 เมกะวัตต์

                ทั้งนี้แหล่งเงินทุนเงินที่ใช้ในการเข้าซื้อจะมาจากทั้งกระแสเงินสดที่มีอยู่แล้ว ประกอบกับวงเงินกู้ยืม หรือ Project Loan โดยมั่นใจว่าเงินจะเพียงพอสำหรับทุกโครงการต่อจากนี้  อีกทั้งบริษัทยังมีพันธมิตรสนับสนุนด้วย ซึ่งโครงการลงทุนล่าสุดและทุกๆ การลงทุนหลังจากนี้บริษัทตั้งเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) เกินระดับ 10%

                นอกจากนี้ธุรกิจโซลาร์เซลล์ บริษัทถือเป็นผู้เล่นรายสำคัญในส่วน สัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ผลิตจากระบบโซลาร์เซลล์ หรือ Private PPA  บริษัทได้ติดตั้งแล้วทั้งหมด 77 จังหวัดทั่วประเทศ และมีผลงานกว่า 10,000  ไซต์งาน ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็น B2B ขนาดของโครงการมีตั้งแต่ 300 กิโลวัตต์ จนถึงระดับ 10 เมกะวัตต์ ในหลากหลายรูปแบบการติดตั้ง ลักษณะธุรกิจจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ รายได้จากค่าไฟ (PPA) ซึ่งเป็นรายได้สม่ำเสมอ และรายได้จาก EPC หรือเป็นรายได้จากการพัฒนาโครงการและส่งมอบให้เจ้าของโครงการ ซึ่งนับเป็นเงินก้อนใหญ่ และช่วยเพิ่มกำไรในแต่ละปีได้

                สำหรับแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังนี้โดยรวมจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมาอย่างชัดเจน จากปัจจัย 2 ประการ 1. ธุรกิจพลังงานไฟฟ้ามีจำนวนเมกะวัตต์เพิ่มขึ้น โครงการที่เข้าซื้อมาใหม่ สามารถจ่ายไฟได้ทันที ทำให้เกิดการรับรู้รายได้ได้เลย และ 2. ธุรกิจเหล็กพ้นจากช่วงปรับปรุงโรงงานไปแล้ว ในขณะที่ออร์เดอร์ยังมีอยู่ต่อเนื่องดังนั้นผลดีจากการปรับปรุงย่อมทำให้ผลการดำเนินงานส่วนนี้เป็นบวกอย่างชัดเจนตัวสร้างกระแสเงินสดได้ระดับสูง โดยเฉพาะไตรมาส 4/2568 เป็นต้นไป และมั่นใจว่าทั้งปีนี้ธุรกิจเหล็กจะยังสามารถสร้างผลกำไรได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง