รีเซต

AOT ลุ้นเจรจาคิงพาวเวอร์ เก็งขึ้นค่า PSC หนุนอัพไซด์

AOT ลุ้นเจรจาคิงพาวเวอร์ เก็งขึ้นค่า PSC หนุนอัพไซด์
ทันหุ้น
15 ตุลาคม 2568 ( 00:50 )
30

ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง เพาเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า สืบเนื่องจากในอดีตที่ คิง เพาเวอร์ เคยยื่นหนังสือหนังสือขอแก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ให้มีการพิจารณาการยกเลิกหรือปรับปรุงสัญญาไปแล้วนั้น วิเคราะห์ว่า AOT จะมีหลักการพิจารณาในข้อเสนอต่างๆ โดยประเมินในตัวเลขความคุ้มค่าเพื่อประกอบการตัดสินใจทั้งในแง่ความเป็นธรรมและในแง่ผลประโยชน์ ซึ่งในขณะนี้ยอมรับว่ายังไม่อาจคาดเดาผลพิจารณาสุดท้ายที่จะออกมาได้

                อย่างไรก็ตามในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจ ร้านค้าปลอดภาษี หรือ Duty Free กำลังพบสัญญาณการแข่งขันขนานใหญ่ เช่น Duty Free จีนทำการตลาดยิ่งใหญ่และมีกิจกรรมลดราคา อีกทั้งเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่เช่น Gen Z ที่ลดความนิยมสินค้าแบรนด์เนมแบบเดิม รวมไปถึงผลจากภาวะเศรษฐกิจแวดล้อมอื่น ทำให้ร้านค้าปลอดภาษีที่ตั้งอยู่ภายในตัวเมือง หรือ Downtown Duty Free  รายได้หายไปเหลือเพียงประมาณ 10% ของรายได้เดิม จากเมื่อก่อนรายได้คิดเป็น 50% เทียบเท่าร้านค้าปลอดภาษีในสนามบิน หรือ Airport Duty Free ที่สัดส่วนรายได้เคยเป็น 50% สมดุลกัน

                บริษัทบริหารจัดการรับมือโดยตัดสินใจปิดตัว Downtown Duty Free ไปแล้ว 3 แห่ง และต้องรอการประเมินต้นทุนใหม่ของ Airport Duty Free จาก ทอท. พร้อมทั้งเตรียมทำธุรกิจใหม่บนทรัพย์สินเดิม ส่วนการขยายธุรกิจต่างประเทศ คิง เพาเวอร์ ได้เริ่มไปเปิดธุรกิจที่ สนามบินเซี่ยงไฮ้  ผู่ตง โดยทดลองทำธุรกิจ เช่น อาหาร ก่อนซึ่งเป็นกลยุทธ์ตอบโต้เมื่อคนจีนไม่มา ก็ต้องไปขายที่จีน อีกทั้งเตรียมพร้อมเพื่อประมูล Terminal 3 ของสนามบินผู่ตงในอนาคต และโจทย์ใหญ่ที่สุดคือการหาสินค้าที่ตอบโจทย์ยุคใหม่

                นายดิษฐนพ  วัธนเวคิน  นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ประเด็นข้อตกลงสัมปทานมีผลอย่างมีนัยต่อทั้งผลประกอบการและราคาหุ้นของ AOT  แต่ในระยะสั้นน้ำหนักการเก็งกำไรจะให้ไว้ที่่เรื่อง ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมผู้โดยสารขาออก  หรือ PSC ที่จะมีผลต่อมูลค่าเป้าหมายหุ้นได้ชัดเจนกว่า

                สำหรับการเจรจาสัญญาสัมปทาน Duty Free กับ คิง เพาเวอร์ คาดมีข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้นประมาณเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน ปีนี้ ซึ่งหากเป็นไปในกรณีฐาน Worst Case ที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ไว้คือผลประมูล สัญญา Duty Free สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ที่ราว 6,000 ล้านบาท ย่อมอาจไม่ส่งผลดีต่อราคาหุ้นนัก แต่ก็ยังดีกว่าผลการเจรจายืดเยื้อไม่ชัดเจน ซึ่งทำให้ต้องเก็บเป็น Minimum Guarantee ต่อหัวผู้โดยสารต่อไป

                โดยในสัญญาเก่ามูลค่าราคาประมูล 15,419 ล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นสัดส่วนรายได้ที่มากเทียบกับรายได้ต่อปี AOT ซึ่งอยู่ที่ราว 60,000-70,000 ล้านบาท แต่หากเป็นกรณีความเป็นไปได้ตัวเลขที่เจรจาออกมาสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท หรือมากกว่านั้นซึ่งเป็นไปได้ไม่ง่าย ก็ย่อมทำให้ผลดีต่อผลประกอบการมากขึ้นตามลำดับ

@กระแส PSC ดันราคาหุ้น

                ขณะที่น้ำหนักของประเด็นปรับเพิ่มค่า PSC กำลังมีผลต่อราคาหุ้น AOT มากกว่าประเด็นการเจรจา Duty-Free  โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้น  ทั้งในส่วนของเส้นทางในประเทศและระหว่างประเทศ และที่ผ่านมาราคาบนกระดานมีการสะท้อนไปพอสมควรแล้วด้วย ซึ่งหากตัวเลขปรับขึ้นเป็นไปตามคาดการณ์ย่อมสนับสนุนราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 43.50 บาท จากกรณี Base Case ที่ 30 บาท ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์จึงแนะนำให้ระวังแรงขายล่วงหน้าที่ราคาเป้าหมายที่บวกปัจจัยความคาดหวังแล้ว

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง