88TH กระแสไลฟ์มาแรง ยอดพุ่ง 3 เท่า-รันผลิตเต็ม

#88TH #ทันหุ้น – 88TH รับเต็มกระแสไลฟ์สดฟีเวอร์ ยอดขายอีคอมเมิร์ซถล่มทลายทำสถิติโต 3 เท่าตัว เพียง 2 วัน ทะลุ 30 ล้านบาท แพลตฟอร์มช่องตัวเองยอดพุ่งเท่าตัว หนุนโรงงานผลิตรันเต็มกำลัง 100% ฟากโบรกเคาะกำไรปีนี้ พุ่งขึ้น 83.5% แตะ 102 ล้านบาท ให้เป้าหมาย 10-13 บาท

                นางสาวนพรัตน์  มาลัยวงค์  ก่อตั้งและกรรมการ บมจ. 88(ไทยแลนด์) หรือ 88TH เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า  บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากจากการใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านการไลฟ์สด โดยเฉพาะในช่วงที่มีกระแสอินฟลูเอนเซอร์ และคนดังเข้าร่วม โดยมียอดขายจากการไลฟ์สด 2 วันล่าสุดทำได้กว่า 30 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายรวมในเดือนนี้ เกินเป้าหมายไปหลายเท่าตัว

** เติบโตก้าวกระโดด

                “ยอดขายที่พุ่งขึ้นมาเกิดจากการไลฟ์สดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่เหล่าคนดังเข้ามาช่วยสร้างกระแส โดยเมื่อเร็วๆ นี้ มีการไลฟ์สดโดย แจ็ค แฟนฉัน, พี่หนุ่มโฟนอินเข้าไป และ พี่ป๋อง ซึ่งเฉพาะการไลฟ์ของพี่ป๋องสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 10 ล้านบาท ในขณะที่การไลฟ์ของเจนนี่ กับแจ็ค สร้างยอดขายได้ถึง 19 ล้านบาทเศษๆ รวมยอดขายเฉพาะ 2 ไลฟ์นี้พุ่งไปถึง 30 ล้านบาท บวกๆ” นางสาวนพรัตน์ กล่าว

                อย่างไรก็ตามกระแสที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มส่งผลดีมายังช่องของบริษัทโดยตรง ทำให้ยอดขายของช่องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยปกติแล้วบริษัทจะไลฟ์สดทำยอดขายต่อวันได้ประมาณ 200,000 ถึง 300,000 บาท แต่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ยอดขายจากการไลฟ์เองเพิ่มขึ้นมาเป็นหลักล้านบาทบวกทุกวัน

                นอกจากนี้ ยังมีการใช้คลิปสั้นที่ถูกนำไปตัดต่อและติดตะกร้าสินค้า เช่น คลิปของคุณปอนด์ อรนิว ซึ่งมีผู้เข้าชม 2 ล้านกว่าวิวในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ส่งผลให้ยอดขายในตะกร้าสูงถึง 10,000 ชุด และทำยอดขายได้ในระดับล้านบาทเช่นกัน

** เดินหน้าทำกำไร

                อย่างไรก็ตามแม้จะมีการลดราคาในการไลฟ์สด แต่บริษัทยังสามารถบริหารจัดการในเชิงของมาร์จิ้น(Margin) และกำไรได้ เนื่องจากมีการวางโครงสร้าง PML (Profit and Loss Management) ไว้แล้ว ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างการขาย โดยค่าใช้จ่ายเดิมที่เคยเสียเป็นค่า GP (Gross Profit) เมื่อวางขายตามช่องทางอย่างเซเว่นอีเลฟเว่น ได้ถูกนำมาปรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการไลฟ์สดแทน ทำให้ยังอยู่ในกรอบของราคาและโครงสร้างที่กำหนดไว้

                สำหรับแผนงานและเป้าหมายในครึ่งปีหลัง ด้วยกระแสอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ที่พุ่งสูง บริษัทจึงเพิ่มชั่วโมงการทำงานเป็น 2 เท่า โดยเปิดไลฟ์สดทั้งวันทั้งคืน จากเดิมที่ยอดไลฟ์ต่อวันอยู่ที่ 200,000 บาท ขณะนี้ยอดต่อวันสามารถเก็บได้ถึง 1.5 ล้านบาท โดยสล็อตเช้าทำได้ประมาณ 600,000 บาท และสล็อตบ่ายทำได้อีก 700,000-800,000 บาท

                “ยอดขายอีคอมเมิร์ซในเดือนนี้จะสูงขึ้นถึง 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และยอดขายรวมคาดว่าจะโตเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยบริษัทยังคงเดินหน้าไลฟ์สดเอง และทำทุกอย่างไปพร้อมๆ กัน”  นางสาวนพรัตน์ กล่าว

@ เป้าวันละ 10 ล้าน

                นอกจากนี้บริษัทเลือกที่จะเพิ่มชั่วโมงการไลฟ์ มากกว่าการเพิ่มจำนวนคนไลฟ์ โดยมีการเปิดไลฟ์ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ 09.00 – 18.00 น. อีกทั้งยังมีการจ้างมือไลฟ์นอกสังกัดในราคาไม่แพง แต่สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 700,000-800,000 บาท ภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งเป้าหมายคือการเก็บยอดขายให้ได้เกิน 10 ล้านบาททุกวันในช่วงเวลานี้

สำหรับความสำเร็จในการขายส่งผลกระทบโดยตรงต่อโรงงานผลิต (OEM/ODM) ของบริษัทด้วย ขณะนี้โรงงานกำลัง รันเต็มที่ 100% และประสบปัญหาการสั่งออเดอร์เข้ามาไม่ทัน สินค้าอย่างตัว “Annie” ขายหมด (Sold Out) อย่างรวดเร็ว บริษัทต้องเปิด PO (Purchase Order) เพิ่ม และอาจจะต้องเปิดโอที (OT) ให้กับพนักงาน ซึ่งถือเป็นผลตอบแทน สองเด้ง ทั้งด้านการผลิตและการขาย

                สำหรับนักวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายปี 2569 อยู่ที่ 10-13 บาท ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด ประเมินราคาเหมาะสม หุ้นใหม่แกะกล่อง “88TH” อยู่ที่ 13.00 บาท คาดกำไรสุทธิ ปีนี้ และ 2569 เพิ่มขึ้น 83.5% YoY และ 33.5% YoY อยู่ที่ 102 ล้านบาท และ 137 ล้านบาท ตามลำดับ  บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาเป้าหมายที่ 10 บาท คาดรายได้และกำไรสุทธิเติบโต 29% และ 41% CAGR ในช่วงปี 2568-2570 

@ เคาะราคา 11.70 บ.

            บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จํากัด (มหาชน) ประเมินราคาเหมาะสมของ 88TH ที่ราคา 11.70 บาท ด้วยวิธี DCFพร้อมการเติบโตเฉลี่ย 3 ปีที่ 40% ต่อปี โดยแบรนด์ “LYO” ไปยังกลุ่มใหม่ๆ เกี่ยวกับเส้นผมต่อยอดความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์ Hair Color และ Hair Herbal  บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ได้ประเมินมูลค่าเหมาะสมสำหรับ 88TH ไว้ที่  10.10 บาท กำไรสุทธิเติบโต CAGR 42% ระหว่างปี 2567-2570 มาจากการขยายผลิตภัณฑ์เก่าและใหม่ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่าย