รีเซต

ทวี สอดส่อง อภิปรายแถลงนโยบาย รุกปมเขากระโดง–ฮั้ว สว. วุ่นกลางสภา

ทวี สอดส่อง อภิปรายแถลงนโยบาย รุกปมเขากระโดง–ฮั้ว สว. วุ่นกลางสภา
TNN ช่อง16
29 กันยายน 2568 ( 16:53 )

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ที่ประชุมรัฐสภาเกิดบรรยากาศตึงเครียดระหว่างการอภิปรายนโยบายรัฐบาล หลัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ในฐานะฝ่ายค้าน ลุกขึ้นอภิปราย โดยตั้งข้อสังเกตว่า แม้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเป็น “รัฐบาล 4 เดือน” แต่เนื้อหานโยบายกลับมีลักษณะเหมือนวางแผนทำงานต่อเนื่อง 4 ปี

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่ารัฐบาลต้องเลือกให้ชัดเจนว่าอะไรควรทำในช่วงเวลาจำกัด สิ่งที่ต้องทำคือแสดงความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต และใช้งบประมาณ 3.78 ล้านล้านบาทให้เกิดประโยชน์ ขณะที่สิ่งที่ไม่ควรทำคือใช้อำนาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม พร้อมตั้งข้อกังวลว่ารายชื่อรัฐมนตรีบางคนอาจกระทบความน่าเชื่อถือรัฐบาลเพราะถูกสังคมตั้งคำถามเรื่องจริยธรรม



การอภิปรายยิ่งร้อนแรงเมื่อ พ.ต.อ.ทวี พาดพิงถึงปัญหาที่ดินเขากระโดง และคดีฮั้วเลือก สว. ทำให้ สส.พรรคภูมิใจไทย รวมถึง สว. หลายรายลุกขึ้นประท้วง โดยนายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ประเด็นดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาล และย้อนถามว่า พ.ต.อ.ทวี ต่างหากที่ถูกศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

พ.ต.อ.ทวี ตอบโต้ว่า การหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อยืนยันหลักการบริหารที่โปร่งใส โดยโยงว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทยเกี่ยวข้องโดยตรง ทั้งยังเชื่อมโยงว่ามีผลประโยชน์ทางการเมืองในพื้นที่บุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังย้ำว่าคดีฮั้วเลือก สว. ส่งผลต่อเสถียรภาพฝ่ายนิติบัญญัติและองค์กรอิสระ

การอภิปรายดังกล่าวนำไปสู่การโต้เถียงวุ่นวายในห้องประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เช่น นายอดิศร เพียงเกษ เสนอให้เปลี่ยนประธานการประชุมจากนายมงคล สุรสัจจะ ประธานวุฒิสภา ไปเป็นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เพื่อความเป็นกลาง ขณะที่นางนันทนา นันทวโรภาส สว. ลุกขึ้นซักถามรัฐบาลว่าจะทำตามหลักนิติรัฐได้อย่างไรเมื่อมีผู้เกี่ยวข้องคดีสำคัญ

สุดท้าย นายมงคลยังคงให้ พ.ต.อ.ทวี อภิปรายต่อจนจบ โดยเจ้าตัวย้ำว่าห้ามรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงคดีใด ๆ และแสดงความกังวลว่านโยบายกัญชาหากไม่ควบคุมอย่างเข้มงวดอาจสร้างปัญหาสังคมในอนาคต

ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวยืนยันแยกต่างหากว่า กรมที่ดินได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลในคดีเขากระโดงครบถ้วนแล้ว โดยศาลไม่ได้ชี้ขาดว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย และทุกการดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย ไม่สามารถให้คณะบุคคลใดเข้ามาแทนที่กระบวนการยุติธรรมได้ พร้อมขอให้ทุกฝ่ายยึดข้อเท็จจริงตามกฎหมาย

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง