ส่องยกเลิก UCEP Plus มีผลต่อหุ้นรพ.อย่างไร
#ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ต่อกรณีที่ สปสช.ประกาศยกเลิกการรักษาโควิด-19 แบบ Home Isolation, Hospitel และ UCEP Plus โดยเริ่มเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2565 นั้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่จำกัด เพราะเป็นการยกเลิกสำหรับสิทธิ สปสช. ซึ่งไม่ใช่กลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาลที่ฝ่ายวิจัยศึกษา ประการต่อมาปัจจุบันผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียว (อาการไม่รุนแรง)ต้องเข้ารักษาตามสิทธิตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 โดยลูกค้าของโรงพยาบาลเอกชนที่ศึกษาจะเป็นสิทธิประกันสังคม และสิทธิประกัน
นอกจากนี้ประมาณการรายได้เกี่ยวกับโควิด-19 ของโรงพยาบาลที่ศึกษา ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะรับรู้ถึงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตามมองว่าสำนักงานประกันสังคมน่าจะประกาศที่สอดคล้องกับสิทธิ สปสช.ทำให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 สิทธิประกันสังคม จะเป็นการเบิกค่ารักษาตามเกณฑ์ประกันสังคมปกติ โดยอาการเล็กน้อย(OPD) จะเป็นการเบิกตามอัตราเหมาจ่ายต่อหัว 1,640 บาท/คน/ปี ส่วนอาการมาก (IPD) จะเบิกตามค่า RW และมองว่าประกาศดังกล่าวจะทำให้โรงพยาบาลเอกชน สามารถคิดค่ารักษาตามอาการของลูกค้าแต่ละรายที่เข้ารับการรักษาโควิด-19 ตามสิทธิการรักษา ซึ่งจะไม่กระทบต่ออัตรากำไรจากการรักษาเมื่อเทียบกับการเบิกค่ารักษากับรัฐ
ทั้งนี้ในครึ่งหลังของปีนี้ หากโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น มองเป็นบวกต่อโรงพยาบาลที่ศึกษา เนื่องจากการให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 จะไม่ต่างกับโรคไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก โดยช่วงที่มีการระบาดโรงพยาบาลจะได้ประโยชน์จากจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่าปกติ และอัตราค่ารักษาโรคเป็นไปตามแต่ละโรงพยาบาลกำหนด ทำให้ประมาณการกำไรของโรงพยาบาล มีโอกาสเกิด upside มากกว่า downside
ฝ่ายวิจัยโนมูระ พัฒนสิน คงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ Neutral เพราะเป็น 1 ในปัจจัย 4 ของการดำรงชีวิต ได้ประโยชน์จากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และเป็นหุ้นที่ต้านทานภาวะเงินเฟ้อได้ดี มีกระแสเงินสดมั่นคงและเติบโตสม่ำเสมอ โดยเลือกหุ้น BDMS เป็นหุ้นเด่น แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 29.30 บาทต่อหุ้น