รีเซต

สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์เตรียมซื้อแท็กซี่บิน 500 ลำ ขนส่งผู้โดยสารในปี 2026

สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์เตรียมซื้อแท็กซี่บิน 500 ลำ ขนส่งผู้โดยสารในปี 2026
TNN ช่อง16
11 กันยายน 2565 ( 13:31 )
131

เทคโนโลยีการขนส่งทางอากาศแท็กซี่บินขึ้นลงในแนวดิ่ง (eVTOL) ดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่อยู่ห่างไกลความเป็นจริง ล่าสุดสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (United Airlines) สายการบินชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนการสุดท้ายทายเตรียมจัดซื้อแท็กซี่บินจำนวนกว่า 500 ลำ เพื่อนำมาให้บริการขนส่งผู้โดยสารระหว่างตัวเมืองกับสนามบินในปี 2026 หรือ 4 ปี นับจากนี้


แท็กซี่บินที่อยู่ในแผนการจัดซื้อของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (United Airlines) ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท อีฟ แอร์ โมบิลิตี้ (Eve Air Mobility) ซึ่งมีผลงานการพัฒนาและทดสอบอากาศยานบินขึ้นลงในแนวดิ่ง (eVTOL) มาอย่างต่อเนื่อง 


สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ได้วางเงินมัดจำกับบริษัท อีฟ แอร์ โมบิลิตี้ (Eve Air Mobility) จำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 550 ล้านบาท สำหรับการสั่งซื้อแท็กซี่บินขึ้นลงในแนวดิ่ง (eVTOL) จำนวน 200 ลำ โดยก่อนหน้านี้บริษัทวางเงินมัดจำ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 360 ล้านบาท สำหรับการสั่งซื้องวดแรก 100 ลำ ไปในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำหรับแท็กซี่บินอีก 200 ลำ เป็นแผนการสั่งซื้อในอนาคต ซึ่งหากเป็นไปตามแผนการทั้งหมดสายการบินแห่งนี้จะมีแท็กซี่บินขึ้นลงในแนวดิ่ง (eVTOL) ให้บริการ 500 ลำ  


สำหรับประสิทธิภาพของแท็กซี่บินขึ้นลงในแนวดิ่ง (eVTOL) ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท อีฟ แอร์ โมบิลิตี้ (Eve Air Mobility) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ใบพัดสำหรับใช้บินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งจำนวน 8 ชุด ใบพัดสำหรับระบบขับเคลื่อนไปด้านหน้าจำนวน 2 ชุด รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 4 ที่นั่ง ไม่รวมนักบินคนขับ พิสัยการบินประมาณ 100 กิโลเมตร จุดเด่นในด้านของการลดเสียงรบกวนจากการทำงานของใบพัดลงได้ 90% เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องบินที่ใช้น้ำมันในปัจจุบัน


เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมักถูกพัฒนาขึ้นจากความท้าทายในสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ รถยนต์บนถนนในอนาคตอาจถูกแทนที่ด้วยแท็กซี่บินหรืออากาศยานที่สามารถบินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่ง (eVTOL) ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงบริษัทเอกชนในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว ยังมีอีกหลายบริษัทในยุโรปและเอเชียที่มีผลงานการพัฒนาแท็กซี่บินขึ้นลงในแนวดิ่ง (eVTOL) อย่างโดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน




ที่มาของข้อมูล engadget.com

ที่มาของรูปภาพ Twitter.com/united

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง