3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นไทยภาคบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส คาดหุ้นไทยภาคบ่ายดัชนียังอยู่ในช่วงพักตัวในกรอบ 1,610-1,630 จุด โดมีปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้คือการรายงาน ตัวเลข Initial Jobless Claim สหรัฐฯคาดเพิ่มขึ้น 2.3 แสนตำแหน่ง ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังอยู่ในโหมดปะทะกันระหว่างความกังวลต่อ Recession ของเศรษฐกิจสหรัฐฯหลังภาวะ Inverted Yield Curve ระหว่าง U.S. Bond Yield 10 ปี และ 2 ปีอยู่ที่ติดลบมากถึง -84 bps และความคาดหวังเชิงบวกต่อการผ่อนคลายมาตรการ COVID-19 ในจีน ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นภูมิภาคยังแกว่งบวกลบเป็นรายประเทศ
ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีประเด็นใหม่ทำให้มูลค่าการซื้อขายอยู่ในภาวะซบเซาสะท้อนจากเช้านี้มูลค่าการซื้อขายเพียง 2.33 หมื่นล้านบาท ถือเป็นมูลค่าการซื้อขายครึ่งเช้าที่เบาบางที่สุดในรอบเดือนนี้
โดยกลยุทธ์การลงทุน ยังชอบหุ้น Domestic Consumption ประกอบด้วยหุ้น CRC, KTB, CBG และ BEC 2) หุ้นที่มีโอกาส เข้าคำนวณใน SET50 ประกอบดวย COM7, RATCH และ BJC (ชอบ COM7 มากที่สุด)
ด้านบล.กสิกรไทย คาดแนวโน้มตลาดหุ้นภาคบ่ายดัชนียังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ที่ 1,616-1,630 จุด โดยประเด็นสำคัญที่กำหนดทิศทางตลาดอยู่ที่ถ้อยแถลงของประธาน ECB President Lagarde จะแสดงความเห็นต่อการดำเนินนโยบายการเงินในยุโรปอย่างไร และตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ตลาดคาด 230K (vs. 225K สัปดาห์ก่อน) ฝ่ายวิจัยประเมินว่าหากออกมาดีกว่าคาดหรือแย่กว่าคาดจะไม่น่าทำให้มุมมองเรื่องดอกเบี้ยของเฟดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ ปัจจุบันตลาดคาดรอบนี้เฟดจะขึ้น 0.50% ส่วนโอกาสขึ้น 0.75% คาดโอกาสไม่สูง โดยรวมยังคงมุมมองเดิมคือ Dollar, Bond yield ได้ผ่านจุด Peak ไปแล้วและแนวโน้มเงินบาทยังแข็งค่าต่อจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยรวมฝ่ายวิจัยยังมองบวกต่อหุ้นในกลุ่มการเงิน กลุ่มโรงไฟฟ้า แต่จะลบต่อกลุ่มประกันชีวิต
กลยุทธ์การลงทุน หุ้นกลุ่มที่แนะนำลงทุนระยะสั้น แนะนำเก็งกำไรในหุ้น กลมุ่ Anti Commodity ตามทิศทางราคาน้ามันดิบ Brent ยังปรับลงทำ New low ในรอบ 1 ปี เมื่อวาน -2.8% DoD ปิดที่ 77.17 เหรียญ/บาร์เรล บวกต่อกลมุ่ Retail oil อาทิ PTG, OR กลุ่มสายการบิน อาทิ AAV, BA 2.)กลุ่มเรือเทกอง อาทิ PSL วันนี้คาดได้กระแสบวกจาก BDI ที่ปรับขึ้น 3.) กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC, BGRIM, EGCO, RATCH ฯลฯ ได้กระแสบวกจากทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่า โดยเช้านี้เงินบาทต่ำ 35 บาทอีกครั้งลงมาที่ 34.88 บาท
ส่วนแนะนำระยะกลาง-ยาว ยังแนะนำสะสมและ Run profit ในหุ้นกลุ่มที่แนะนำตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ได้แก่ 1.) กลุ่ม Growth stock แนะนำ JMT, KLINIQ 2.) หุ้น Defensive พื้นฐานดี ,Downside จำกัด แนะนำ BEM, BAM 3.)กลุ่มนิคมฯ ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต แนะนำ หุ้น AMATA 4.) กลุ่มโรงแรม แนะนำ หุ้น SHR, MINT
บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีในภาคบ่ายพักฐานต่อเนื่องจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ อาจถดถอยในปีหน้าจากผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามจีนเตรียมผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 เป็นปัจจัยหนุนต่ออุปสงค์ในเอเซีย และเป็นตัวช่วยพยุงดัชนี