แพทองธาร ชินวัตร โอกาสเป็นนายกฯอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ไทย
การเสนอชื่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของไทย ในการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ได้จุดประกายความสนใจไปทั่ววงการการเมืองไทย เพราะหากเธอได้รับเลือก จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ทำลายสถิติของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เคยได้เป็นนายกฯ เมื่ออายุ 44 ปี
ความหวังของคนรุ่นใหม่
ในวัย 38 ปี แพทองธารถือเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองระดับสูงสุดของประเทศ การเสนอชื่อเธอเป็นแคนดิเดตนายกฯ สะท้อนถึงความต้องการเปลี่ยนแปลงและความหวังที่จะเห็นการเมืองในแบบฉบับใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังและไอเดียสดใหม่จากคนรุ่นใหม่ ซึ่งอาจช่วยให้การแก้ปัญหาบ้านเมืองมีมุมมองที่แตกต่างไปจากแนวคิดเดิมๆ
ความกังวลเรื่องประสบการณ์
อย่างไรก็ตาม ด้วยวัยที่ค่อนข้างน้อย ทำให้หลายฝ่ายมีข้อกังวลในเรื่องประสบการณ์ทางการเมืองของแพทองธาร ว่าจะเพียงพอต่อการแบกรับภารกิจอันหนักอึ้งในการบริหารประเทศท่ามกลางวิกฤตหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอดีตนายกฯหลายคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการการเมืองมาอย่างโชกโชน กระนั้นก็มีเสียงสนับสนุนว่า ประสบการณ์อาจไม่ใช่ตัวชี้วัดเดียวของความสำเร็จ แต่วิสัยทัศน์ ความคิดสร้างสรรค์ และการเลือกทีมงานที่ดี ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
ความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า
หากแพทองธารได้เป็นนายกฯ เธอจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมในฐานะผู้นำประเทศ การรวมพลังทางการเมืองจากหลากหลายฝ่าย การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงการสานต่อนโยบายจากรัฐบาลเดิม โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองที่ฝังรากลึกมานาน ถือเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งที่แพทองธารจะต้องแสดงภาวะผู้นำ ความสุขุมรอบคอบ และสติปัญญาอย่างเต็มเปี่ยมในการประคับประคองประเทศให้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ไปให้ได้
การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของแพทองธาร ชินวัตร ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่สั่นสะเทือนการเมืองไทย เธอจะมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองว่าแม้จะอายุน้อย แต่ก็มีความสามารถที่จะบริหารประเทศ และมีวิสัยทัศน์ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับบ้านเมือง อย่างไรก็ดี เส้นทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยความท้าทายและความคาดหวังที่เธอจะต้องรับมือ การที่จะนำพาประเทศฝ่าฟันวิกฤตไปได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยทั้งพลังจากความคิดใหม่ๆ และภูมิปัญญาจากประสบการณ์เก่าๆ ผสานกันไป พร้อมกับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในสังคม เพื่อหลอมรวมเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น