Virgin Hyperloop One เตรียมทดสอบระบบขนส่งความเร็วสูงแห่งอนาคต ในมลรัฐ West Virginia
Virgin Hyperloop One ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการให้มีการทดสอบระบบขนส่งความเร็วสูงแห่งอนาคต“Hyperloop” ในมลรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกาพร้อมตั้งงบประมาณการสร้างไว้ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มาของภาพ https://www.cbnme.com/logistics-news/virgin-hyperloop-unveils-west-virginia-as-the-location-for-the-hyperloop-certification-center-in-the-united-states/
เทคโนโลยีการขนส่งความเร็วสูง Hyperloopคือระบบการเดินทางผ่านท่อสุญญากาศ โดยใช้แคปซูลเป็นยานพาหนะและใช้พลังงานของแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนแคปซูลให้เดินทางจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทางเนื่องจากการเคลื่อนที่ดังกล่าวเกิดขึ้นในสภาวะสุญญากาศทำให้ไม่เกิดแรงต้านหรือแรงเสียดทาน ในทางทฤษฎี Hyperloop จึงสามารถทำความเร็วได้สูงถึง1,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว
Virgin Hyperloop One หนึ่งในผู้พัฒนาเทคโนโลยีHyperloop ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหลายแห่ง ในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวโดยเฉพาะจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) ที่ได้ให้เงินสนับสนุนสูงถึง 90ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และส่งตัวแทนเข้าเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารหากเทคโนโลยีนี้ผ่านการทดสอบไปด้วยดี ก็อาจจะนำเข้าไปใช้ในประเทศด้วย
ที่มาของภาพ https://edition.cnn.com/2020/10/09/tech/virgin-hyperloop-west-virginia-trnd/index.html
จริง ๆ ทาง Virgin Hyperloop One เคยทดสอบการปล่อยแคปซูล (หรือรู้จักกันในชื่อ Levitating pod) ในท่อสุญญากาศ ซึ่งตั้งอยู่ในสถาบันแห่งหนึ่งบนทะเลทรายทางตอนเหนือของลาสเวกัสปรากฏว่าแคปซูลสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็ว 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแม้จะมีความเร็วต่ำกว่าทฤษฎี แต่ผู้พัฒนาเชื่อว่าหากต้องการความเร็วตามทฤษฎี ต้องมีความยาวของท่อสุญญากาศอย่างน้อย2 กิโลเมตร (ซึ่งท่อที่ทดสอบในห้องทดลองมีความยาวน้อยกว่าจึงได้ความเร็วต่ำกว่านั่นเอง)
ที่มาของภาพ https://www.businessinsider.com/virgin-hyperloop-one-test-2-year-anniversary-2018-5
ล่าสุดทางบริษัทก็ได้รับอนุญาตให้สามารถทดสอบเทคโนโลยีHyperloopบนพื้นที่ของมลรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย พร้อมทุ่มเงินกว่า 500ล้านดอลลาร์ในการทดสอบนี้ จึงเป็นไปได้ว่าทาง VirginHyperloop One จะสร้างท่อสุญญากาศให้มีความยาวมากขึ้นกว่าครั้งก่อน เพื่อทดสอบว่าแคปซูลจะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วตามทฤษฎีหรือไม่และถ้าหากทำได้จริง มันก็จะกลายเป็นคำตอบของรูปแบบการขนส่งแห่งอนาคตอย่างแท้จริง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก The Verge
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline