BAFSไฮซีซันอัพขายน้ำมัน SAFต่อยอดพอร์ตธุรกิจ
#BAFS #ทันหุ้น - BAFS คาดผลงานปี 2568 รายได้เติบโต 8% จากปี 2567 เนื่องจากได้รับอานิสงส์ยอดขายน้ำมันอากาศยานพุ่ง และไฮซีซันท่องเที่ยวหนุน พร้อมส่งสัญญาณโค้งส่งท้ายปี 2567 ธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยานสดใส ลุยจัดทัพเดินหน้าโมเดล SAF หวังสยายปีกต่อยอดธุรกิจเพิ่ม
นางสาวรวินดา ปุณณะหิตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินองค์กร บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2568 เติบโตประมาณ 8% เมื่อเทียบกับปี 2567 เนื่องจากแนวโน้มยอดขายในกลุ่มธุรกิจให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งยังได้แรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าเข้ามาเสริม
โดดรับไฮซีซัน
ขณะที่ในปี 2567 ทาง BAFS ยังคงประมาณการรายได้ไว้ที่ราว 5 พันล้านบาท หลังช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้แล้วราว 2.61 พันล้านบาท ประกอบกับภาพรวมในช่วงที่เหลือปีนี้ยังดีต่อเนื่อง ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริการจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ
โดยแนวโน้มธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยานในไตรมาส 4/2567 บริษัทคาดปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นไฮซีซันของกลุ่มดังกล่าว จึงน่าจะได้ปริมาณขายที่เพิ่มสูงขึ้น
รุก SAF ต่อยอด
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมาทาง BAFS ยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรมการบินในอนาคต ซึ่งองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO) กำหนดให้เครื่องบินพาณิชย์ต้องเติมน้ำมันอากาศยานยั่งยืนSustainable Aviation Fuel (SAF) ในสัดส่วนราว75% ภายในปี 2593 โดยให้เริ่มเติมน้ำมัน Jet A-1 ที่มี SAF เป็นส่วนผสมในอัตรา2% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม2568 เป็นต้นไป หวังเป็นการต่อยอดธุรกิจอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ ทาง BAFS ยังคงขยายการเติบโต ต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านธุรกิจบริการพลังงานอย่างยั่งยืน โดยบริษัทมีแผนขยายกำลังผลิตติดตั้งเชิงพาณิชย์ (COD) พลังงานทางเลือกอย่างเนื่อง เพื่อเสริ
มความแข็งแกร่งในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ามีกำลังการผลิตติดตั้งเชิงพาณิชย์ ณ สิ้นปี 2567 ที่ 53 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานได้เข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม) ในประเทศญี่ปุ่น และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศมองโกเลียกำลังการผลิตติดตั้งเชิงพาณิชย์ที่ราว21 เมกะวัตต์เพิ่มเติม
สตอรี่เด่น-เป้า 20 บ.
ทางด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ผลงาน BAFS ในไตรมาส 4/2567 น่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 เพราะเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว จึงทำให้ปริมาณการเดินทางขยายตัวค่อนข้างมาก รวมทั้งเป็นผลดีต่อธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยานของบริษัทด้วย
จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการปกติทั้งปี 2567 ขึ้น 16% เป็น 237 ล้านบาท ฟื้นจากขาดทุนปกติปี2566 ที่ 44 ล้านบาท และประเมินว่าจะสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องอีก 16% ในปี 2568 ขึ้นไปแตะ 346 ล้านบาท ผลจากการจัดการต้นทุนโดยรวมดีขึ้นรวมถึงปรับค่าใช้จ่ายทางการเงินลงเฉลี่ย2-3% เพื่อสะท้อนทิศทางหนี้โดยรวมเริ่มลงและแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BAFS ให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 20.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” BAFS และคงราคาเป้าหมายปี2568 ที่ 19.50 บาท อิงจาก P/E ที่ 23.0x ถึงแม้ว่ากำไรในไตรมาส 3/2567 จะลดลง QoQ แต่ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรในไตรมาส 4/2567 จะดีดตัวขึ้น QoQ เนื่องจาก 1. คาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินจะเพิ่มขึ้นเพราะเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยวไทย และ 2. จะได้รับเงินปันผลจากโรงไฟฟ้า Solar ในญี่ปุ่น 2 แห่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตตาม PPA รวม 10 เมกะวัตต์