17ส.ค.ลุ้นศาลเคาะแผนฟื้นฟู
วันที่ 31 กรกฎาคม 2563บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 โดยที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นฯ รับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2562 บริษัทฯและบริษัทย่อย ขาดทุนจากการดำเนินงาน จำนวน 12,424 ล้านบาท ขาดทุนสูงกว่าปีก่อน 3,366 ล้านบาท หรือ 37.2%
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์ รวมจำนวน 256,665 ล้านบาท มีหนี้สินรวม เท่ากับ 244,899 ล้านบาท และส่วนของ ผู้ถือหุ้นมีจำนวน 11,766 ล้านบาท
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทยเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า หลังจากศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งรับแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย โดยนัดไต่สวนในวันที่ 17 ส.ค.นี้
สำหรับกระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น ตั้งแต่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของการบินไทย เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 การบินไทยได้ให้ข้อมูล แก่เจ้าหนี้เพื่อให้เจ้าหนี้ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการอย่างถูกต้องและทั่วถึง และบริษัทฯ ได้พยายามดำเนินงานด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ เพื่อเจ้าหนี้มีความมั่นใจที่จะให้การสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยต่อไป ซึ่งการเจรจาหารือเป็นไปในทิศทางที่ดี
นอกจากนี้ การบินไทย ได้หารือร่วมกับหน่วยงานและองค์กรสำคัญต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจการบินของการบินไทย ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากองค์กรดังกล่าวเป็นอย่างดี
สำหรับการนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 17 สิงหาคม 2563 นั้น การบินไทยได้เตรียมความพร้อม และดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อนำเสนอต่อศาลล้มละลายกลางอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันนัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ศาลล้มละลายกลาง จะพิจารณามีคำสั่งในประเด็นสำคัญเพียง 2 ประเด็นเท่านั้น
กล่าวคือ การบินไทยสมควรได้รับการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ และสมควรแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนที่การบินไทยเสนอให้เป็นผู้ทำแผนของการบินไทยหรือไม่
โดยที่ศาลจะยังไม่พิจารณาว่าเจ้าหนี้รายใดเป็นเจ้าหนี้ในจำนวนเท่าใด และจะได้รับชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการมากน้อยเพียงใด ซึ่งขั้นตอนการพิจารณาดังกล่าว จะเกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ และตั้งผู้ทำแผนเพื่อจัดทำแผนเสนอให้เจ้าหนี้ทั้งหลายพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่บริษัทฯ หยุดทำการบินชั่วคราว แต่ยังคงให้บริการเที่ยวบินขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง และจัดเที่ยวบินพิเศษนำคนไทยที่ตกค้างจากประเทศต่างๆ ทำให้มีรายได้จากการขนส่งสินค้า และจัดเที่ยวบินพิเศษระหว่างเดือนมีนาคม - กรกฏาคม 2563 ประมาณ 1,826 ล้านบาท และบริษัทฯ ยังมีรายได้จากฝ่ายครัวการบินช่วงเดือนมีนาคม - มิถุนายน 2563 ประมาณ 500 ล้านบาท จากการผลิตอาหารขึ้นเครื่องบินให้แก่สายการบินลูกค้า และของบริษัทฯ
ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่าคณะกรรมการบริษัทฯ ฝ่ายบริหาร และพนักงาน ได้ร่วมแรง ร่วมใจนำพาองค์กรฝ่าฟันวิกฤต เพื่อให้การบินไทยกลับมาทำการบินอีกครั้ง และเป็นสายการบินของไทยที่นำความภูมิใจมาสู่คนไทย และประเทศไทยตลอดไป