OR สูตรนิเวศอีวีสร้างเงิน สถานีอัจฉริยะ 200 แห่ง

#OR #ทันหุ้น - บิ๊ก OR เปิดสูตรอีโคซิสเต็มอีวีสร้างรายได้ ลั่นการใช้งานจุดชาร์จเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมคุยเอกชนสร้างชาร์จเจอร์ใช้งานเกือบ 24 ชม. รับต้องการดึงลูกค้าใช้เวลาในปั๊มนานเป็น 45 นาทีดึงเงิน ลุยปั๊มอัจฉริยะตอบโจทย์ลูกค้าปีนี้ 200 แห่ง พร้อมเพิ่มสัดส่วนรายได้นอนออยล์สู่ 30% ชี้ยังสนใจลงทุนต่างแดนเล็งเมียนมาที่จะมีการเลือกตั้ง ส่วนกัมพูชามีทางออกทุกสถานการณ์
ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจมากกว่าการดำเนินธุรกิจสถานีให้บริการน้ำมัน โดยอาศัยโครงข่ายของระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าและเทรนด์อนาคต หรือ “OR EV Ecosystem & Future Trend” เข้ามาต่อยอดการดำเนินธุรกิจสถานีบริการ ซึ่งจะช่วยทำให้ประชาชนใช้เวลาในสถานีและมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยการชาร์จรถไฟฟ้าทำให้ลูกค้าใช้เวลาในสถานีจากเดิมราว 5 นาที เพิ่มเป็น 30–45 นาที การใช้กลยุทธ์ในการขายจุดชาร์จ และการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์จึงเป็นส่วนสำคัญเพื่อที่ตอบรับกับการใช้งานของประชาชนและธุรกิจ
ปัจจุบัน OR มีหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแล้วกว่า 3,300 หัวชาร์จ ทั้งในสถานีบริการ PTT Station สถานี LPG สถานี NGV แล้วยังมีการเปิด “OR SPACE” ที่ปรับโฉม Ecosystem ของ OR ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค Energy Transition
โดยผสานพื้นที่เชิงพาณิชย์ บริการไลฟ์สไตล์ และบริการเสริมด้าน EV เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้สถานีบริการกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางและการใช้ชีวิตและขยาย OR Ecosystem ภายในสถานีบริการ ทั้งร้าน Café Amazon และร้านอาหารต่าง ๆ ตลอดจนบริการด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ เช่น คลินิกโอบอ้อม ร้าน found & found ซึ่งรวมสินค้าสุขภาพและความงาม และ Otteri WASH & DRY
"ผมจะต้องทำสถานีบริการให้มารองรับกับการใช้ชีวิตครึ่งชั่วโมง โดยก่อนปี 2567 บริษัทมี 2 พันกว่าหัวชาร์จ อัตราการชาร์จอยู่ที่ 4-5 ชั่วโมงต่อหัวชาร์จ แต่ปัจจุบันมีจำนวนชาร์จมากขึ้น และใช้จำนวนเวลา 6 ชั่วโมง แสดงว่าทั้งจำนวนหัวชาร์จ และจำนวนเวลาเพิ่มขึ้นพอสมควร"
นอกจากนี้บริษัทได้ดำเนินการขยายสถานีชาร์จทั้งในและนอก PTT Station รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพ และเป็นพื้นที่มีความต้องการหนาแน่น เช่น ศูนย์การค้า โรงแรม โรงพยาบาล ออฟฟิศ และสำนักงาน ตลอดจนหน่วยงานรัฐต่างๆ โดยขณะนี้กำลังคุยกับพันธมิตรที่จะให้ติดตั้งอีวีชาร์เจอร์ซึ่งจะใช้งานเกือบ 24 ชั่วโมง และจะเดินหน้าขยายเครือข่าย EV Station PluZ ให้ครอบคลุม 7,000 หัวชาร์จ DC ทั่วประเทศภายในปี 2573
OR ยังมุ่งพัฒนาแอปพลิเคชัน EV Station PluZ ให้เป็นศูนย์กลางประสบการณ์ “จอง–ชาร์จ–จ่าย–สะสมแต้ม” ในช่องทางเดียว และศูนย์บริการลูกค้าครบวงจร พร้อมยกระดับเทคโนโลยี Quick Charger ที่รองรับกำลังไฟในทุกระดับ เพื่อรองรับทั้งรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลและรถเชิงพาณิชย์ รวมทั้งเริ่มขยายสู่ หัวชาร์จแบบ Ultra Fast Charging เพื่อรองรับรถ EV รุ่นใหม่ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีที่สามารถชาร์จได้เร็วเป็นพิเศษด้วย
@ เร่งปั๊มอัจฉริยะ
ม.ล.ปีกทอง กล่าวว่า หลักการของบริษัทต้องการที่จะปรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจน้ำมันซึ่งมีสัดส่วน 90% ขณะที่ธุรกิจนอนออลย์มีสัดส่วน 10% ให้เป็นธุรกิจน้ำมันสัดส่วน 70% ธุรกิจนอนออลย์ 30% จึงต้องดำเนินการด้านรายได้ในกลุ่มไลฟ์สไตล์มากขึ้น
อย่างไรก็ตามการที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจไลฟ์สไตล์นั้น จะต้องมีการขับเคลื่อนด้านดาต้าของลูกค้า ซึ่งบริษัทได้มีการเดินหน้าในการพัฒนา Intelligent Station หรือสถานีให้บริการอัจฉริยะ
ซึ่งเป็นสถานีที่จะมีการวเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ในการพัฒนาและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแต่ละรายได้ทันที โดยช่วงต้นปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าจะพัฒนา Intelligent Station จำนวน 20 แห่ง แต่จากผลตอบรับที่ดีทำให้บริษัทได้มีการพัฒนาแล้วจำนวน 170 แห่ง และตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มเป็น 200 สถานีในช่วงสิ้นปีนี้ ในพื้นที่ไพร์มเอเรีย และถนนสายหลักในการเดินทาง ซึ่งการรับทราบพฤติกรรมผู้บริโภคจะทำให้การลงทุนอื่นๆ เช่น เวอร์ชวลแบงก์ประสบความสำเร็จ
พร้อมกันนี้จะมีการเดินหน้าเพื่อจำนวนผู้ใช้บริการในสถานีให้บริการมากขึ้นโดยต้องการเป้าหมายผู้ใช้มาใช้บริการ 5 ล้านคนต่อวัน จาก 4 ล้านคน โดยมีหน้าจะมีจำนวนราว 4.3 ล้านคน ขณะที่มาร์เก็ตแชร์ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกันจาก 36%
@ ยังลุยต่อต่างประเทศ
สำหรับทิศทางปีหน้า ราคาน้ำมันจะทรงๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงในปีนี้มากขึ้น ประมาณ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแต่มองว่าพีคออยล์จะใช้เวลามากขึ้น เพราะราคาดังกล่าวไมได้จูงใจให้เปลี่ยนแปลงมากขึ้น
ในส่วนต่างประเทศยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของเมียนมา เชื่อว่าจะผ่านจุดเลวร้านสุดไปแล้ว ในเดือนหน้าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งหากมีการยอมรับได้ของสังคมโลก ก็จะเป็นประเทศที่ไทยได้เปรียบในการลงทุน หลังจากมีปัญหามานาน ทำให้เศรษฐกิจพร้อมเติบโต และใช้พลังงานมากขึ้น สปป.ลาว ทาง OR มีอยู่ในทุกๆ จังหวัด ด้านกัมพูชา มี 200 กว่าสถานี ซึ่ง 10% เป็นของ OR ที่เหลือเป็นดีเลอร์ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้มีการเปลี่ยนค่ายไปราว 40 ราย แต่ OR ไม่ได้กระทบมากนัก เพราะมาจากเป็นดีเลอร์ ซึ่งยังมีปั๊ม OR จำนวน 150 รายอยู่ ขณะนั้มองว่าเป็นไปในทางที่ดีอยู่ แต่ยังเดาไม่ออกว่าไปทิศทางไหน แต่ไม่ว่าจะเป็นทิศทางไหน บริษัทมีแผนรองรับอยู่แล้ว
"ในกัมพูชายอดขายลง 50-60% แต่ภาพรวมไมได้กระทบเพราะเป็นแค่ 2-3% แต่การเติบโตในต่างประเทศยังเป็นอนาคต แต่ปัจจุบันต้องดูเพื่อที่จะดูแผนรองรับ ในส่วนคาเฟอเมซอนกำลังเฝ้าดูสถานการณ์ก่อนที่จะตัดสินใจอย่างช้าในช่วงมกราคมปีหน้า ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ดีก็จะต้องปิด ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน"
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
