รีเซต

นายกฯ ชี้แจงเรื่องพักหนี้เกษตรกร ตั้งเป้าจะทำให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้

นายกฯ ชี้แจงเรื่องพักหนี้เกษตรกร ตั้งเป้าจะทำให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้
TNN ช่อง16
12 กันยายน 2566 ( 13:59 )
95
นายกฯ ชี้แจงเรื่องพักหนี้เกษตรกร ตั้งเป้าจะทำให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้

วันนี้ (วันที่ 12 กันยายน 2566) เวลา 13.13 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยนายกรัฐมนตรีชี้แจงต่อกรณีต่างๆ ดังนี้


กรณีการพักหนี้เกษตร รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร ปัญหาปากท้อง การเกษตรเป็นเรื่องสำคัญ โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุม โดยรัฐบาลมีแนวทางดำเนินเร่งด่วน มีเป้าหมายที่จะทำให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ทั้งต้น และดอก โดยย้ำว่าจะทำการพักหนี้ พร้อมแผนการสร้างรายได้ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการปลูกผลิตสิ่งที่ตลาดโลกต้องการในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมตระหนักถึงภาวะโลกเดือด (Global Boiling) จึงเตรียมพร้อมนำความรู้และเทคโนโลยีเข้ามาใช้ การพักต้นและดอกเพื่อเป็นการฟื้นฟูจิตใจให้แก่เกษตรกร ให้มีกำลังและแรงใจ แรงกายในการประกอบอาชีพ 


โดยที่ในอนาคตจะไม่เสียวัฒนธรรมทางการเงินการคลัง เช่น การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การปลูกยาง ซึ่งถ้าใช้ปุ๋ยในจุดที่ถูกต้อง จะลดจำนวนปุ๋ยที่ใช้ และเพิ่มผลผลิตได้อย่างมาก รวมทั้งการใช้เกษตรแม่นยำเข้ามาเพื่อช่วยเกษตร เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายจากการใช้ปุ๋ยเคมีมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สำหรับเรื่องการใช้ Data นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนาความรู้ให้กับเกษตรกรทั่วไป


ส่วนปัญหาหมูเถื่อน นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการรับฟังปัญหานี้มาแล้วในหลายพื้นที่ และได้ประสานอธิบดีกรมศุลกากร โดยในวันนี้จะได้เชิญเจ้าหน้าที่มาพูดคุยและรับทราบข้อมูล เพื่อหาแผนการดำเนินงานสั่งการออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด

ด้านรายได้ของครูและข้าราชการ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สำคัญในการดูแลพี่น้องประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า และเป็นภาคส่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและจะได้ดูแลรายได้ให้เหมาะสมกับงบประมาณควบคู่กับการรักษาวินัยการเงินการคลัง




ที่มา thaigov

ภาพจาก AFP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง