รีเซต

ผู้นำญี่ปุ่นปฏิเสธข่าวลือลาออก ขอตั้งใจทำงานต่อไป

ผู้นำญี่ปุ่นปฏิเสธข่าวลือลาออก ขอตั้งใจทำงานต่อไป
TNN ช่อง16
23 กรกฎาคม 2568 ( 17:59 )
9

ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ออกมาปฏิเสธข่าวที่มีการรายงานในช่วงเช้าวันนี้ว่า เขาเตรียมที่จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนสิงหาคม เพื่อรับผิดชอบต่อผลการเลือกตั้งสภาสูงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) ที่พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP ที่เป็นรัฐบาลร่วมกับพรรคโคเมโตะ สูญเสียเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยได้ไปเพียง 47 ที่นั่ง ต่ำกว่า 50 ที่นั่ง ที่ต้องได้เพื่อรักษาเสียงข้างมาก ทำให้สื่อในญี่ปุ่นหลายสำนักรายงานในวันนี้ว่าเขาเตรียมที่จะลาออกจากตำแหน่งในเดือนสิงหาคม โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่าเขาได้พูดคุยเรื่องนี้กับคนในพรรค

แต่ต่อมาสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า อิชิบะได้ออกมาตอบโต้ข่าวนี้ว่าไม่มีมูลความจริง เป็นแค่ข่าวโคมลอย ซึ่งตรงนี้ก็สอดคล้องกับสิ่งที่อิชิบะเคยพูดไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่เริ่มรู้ผลการเลือกตั้งรัฐสภาสูงที่ตอนนั้น ซึ่งในตอนนั้นก็เริ่มเห็นแววแล้วว่ารัฐบาลผสมของเขาจะสูญเสียเสียงข้างมากในสภา แต่เขาบอกว่าเขาไม่มีแผนที่จะลาออกจากตำแหน่ง และขอโฟกัสไปที่การทำงาน นั่นก็คือการเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ให้สำเร็จ 

และในวันนี้ เมื่อมีข่าวออกมาว่าสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากันได้แล้ว ก็มีข่าวออกมาทันทีว่า อิชิบะเตรียมที่จะลาออกในช่วงปลายเดือนสิงหาคม เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการเลือกตั้งสภาสูง แต่ต่อมาอิชิบะก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

ถ้าหากว่าอิชิบะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งจริง เท่ากับว่าเขาจะลาออกหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งไม่ถึงหนึ่งปี จะก่อให้เกิดการต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เนื่องจากพรรคกำลังเผชิญกับความท้าทายจากพรรคการเมืองใหม่ ๆ โดยเฉพาะพรรคฝ่ายขวา ที่กำลังแย่งเสียงสนับสนุนของพรรคไป

หนึ่งในนั้นคือกลุ่มซันเซโตะ พรรคฝ่ายขวาที่มาพร้อมกับสโลแกน "Japanese First หรือ ญี่ปุ่นมาก่อน" ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลามในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยได้จำนวนผู้แทนในสภาสูงเพิ่มเป็น 14 ที่นั่ง จากเดิม 1 ที่นั่งในทั้งหมด 248 ที่นั่ง พรรคนี้ให้คำมั่นกับประชาชนว่าจะจัดการเรื่องการอพยพ ลดภาษี และให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง