พลังงานกับ AI: จะใช้ AI อย่างไรไม่ให้โลกร้อนไปกว่าเดิม ? | GCNT EXPO 2025

ปัญญาประดิษฐ์ AI เป็นนวัตกรรมที่สะดวก ฉลาด และช่วยมนุษย์ได้หลายอย่าง แต่ AI ต้องใช้ทั้งน้ำทั้งไฟในปริมาณมาก แล้วมนุษย์จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ AI กลายเป็นแหล่งทำลายทรัพยากรของพวกเรา ?
เวที Al Paradox: High Energy vs Climate Solutions ในงาน GCNT EXPO 2025 เป็นการแชร์มุมมองความสำเร็จของภาคเอกชนในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI หรือการใช้ AI โดยไม่ทำให้โลกร้อนกว่าเดิม
ภาพรวมการใช้ AI กับการอนุรักษ์พลังงาน
โจเอล การ์เซีย (Joel Garcia), ASEAN Solution Architocture Loodor จาก AWS ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่มี Data Center และโมเดลปัญญาประดิษฐ์ AI ระดับโลกเป็นของตัวเอง มองว่าการพัฒนา AI ต้องควบคู่ไปกับการอนุรักษ์พลังงาน เช่น ไฟฟ้า รวมถึงทรัพยากรน้ำที่ใช้หล่อเย็นระบบ
ซึ่งสุดท้าย AWS เชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ AI จะเป็นเครื่องมือใช้ลดโลกร้อนได้แม้ว่าจะเป็นเครื่องมือที่ใช้พลังงานสูงก็ตาม ซึ่งการใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI จะเป็นไปในหลายรูปแบบด้วยกัน
เจมส์ แอนดรูว์ มัวร์ (James Andrew Moore) CEO ของบริษัท Azolia Climate ให้ข้อมูลในภาพรวมว่า การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือการพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ ในองค์กรจำเป็นต้องมีกรณีศึกษาที่ชัดเจน หรือมีการจ้างที่ปรึกษาเพื่อออกแบบแนวทาง ซึ่งต่างก็ใช้ทั้งเวลาและงบประมาณ
และในจุดนี้เองที่ปัญญาประดิษฐ์ AI เข้ามาช่วยแก้ปัญหา โดยการสร้างโมเดลจำลองสถานการณ์จากข้อมูลต่าง ๆ ช่วยทำให้องค์กรต่าง ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะปรับเปลี่ยนไปในทิศทางไหน AI จึงกลายเป็นตัวเร่งการลดโลกร้อน
ตัวอย่างการใช้ AI อนุรักษ์พลังงาน
ด้าน นงนุช ปโยนิธิการ รองผู้จัดการใหญ่สายธุรกิจสินค้าบรรจุภัณฑ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า การผลิตขวดของบริษัท (BJC Glass) ได้นำ AI เข้ามาใช้ทั้งกระบวนการผลิต เช่น การออกแบบให้เบาและลดวัตถุดิบที่ใช้ การพัฒนาคุณภาพเตาหลอม ไปจนถึงการสร้างแอปพลิเคชันสำหรับกระบวนการรีไซเคิลขวด
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ AI ใช้พลังงานมหาศาล โดยคุณ James ให้ข้อมูลว่า ระบบ Data Center นั้นใช้ไฟฟ้าระดับ 100 เมกะวัตต์ (MW) แต่เมื่อเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ AI ที่ใช้ Data Center, ระบบประมวลผลที่ใหญ่กว่านั้นก็ทำให้แต่ละระบบใช้พลังงานมากถึงหลักกิกะวัตต์ (GW)
AI จากแหล่งพลังงานสะอาด
และแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว คือการให้ระบบ AI ใช้พลังงานจากแหล่งที่สะอาด เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ หรือแม้แต่พลังงานนิวเคลียร์
ซึ่งหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ AI โดยใช้พลังงานจากแหล่งสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็คือฟินแลนด์
คิมโม เพคาริ (Kimmo Pekari) ที่ปรึกษาพิเศษด้าน Trade and Economic Affairs จากสถานทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย มองว่าการใช้พลังงานเพื่อระบบ AI จำเป็นต้องวางแผนให้รัดกุม เนื่องจากพลังงานสะอาดอย่างลมและแสงอาทิตย์มีกำลังการผลิตไม่สม่ำเสมอตลอดวัน
ซึ่งในส่วนนี้จะได้ปัญญาประดิษฐ์ AI เข้ามาช่วยตรวจสอบ บริหารจัดการให้เป็นระบบมากขึ้น เช่นการดูกำลังการผลิตในแต่ละวัน การเลือกบริหารการจ่ายไฟตามความต้องการในแต่ละพื้นที่
ถอดบทเรียนด้านพลังงานและ AI
ทั้งนี้ บนเวทีมองว่า ท้ายที่สุดแล้ว ประสิทธิภาพและความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ AI จะเป็นสิ่งที่เอาชนะต้นทุนทางพลังงานที่ใช้ได้
ตั้งแต่ภาครัฐ ไปจนถึงการศึกษา การวิจัย และภาคเอกชน ซึ่งจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ เป็นตัวเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านการใช้พลังงานสะอาด เร่งการสร้างนวัตกรรมสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
ดังนั้นในกรณีของไทยเอง ก็ต้องมีการผลักดันจากภาครัฐ ทั้งการลงทุนระบบ AI และการสนับสนุนให้ผลิตพลังงานสะอาดในประเทศรูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสมเช่นกัน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
